MGR Online - ศาลอาญาให้ส่งตัว “แมทธิว” ชาวแคนาดา หนีคดียิงผู้อื่นเสียชีวิตกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ แต่สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 30 วัน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่ ผด.4/2562 ที่พนักงานอัยการต่างประเทศเป็นผู้ร้อง ขอให้ส่งตัวนายแมทธิว อเล็กซานเดอร์ แมคโคแวน ชาวแคนาดา ผู้คัดค้าน กลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
กรณีผู้คัดค้านเป็นบุคคลสัญชาติแคนาดา ได้กระทำผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยใช้อาวุธปืน เมื่อเดือน ก.ย. 2560 เหตุเกิดที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เป็นความผิดที่มีโทษเทียบตามกฎหมายไทยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี อีกทั้งคดียังไม่ขาดอายุความ เนื่องจากเป็นคดีเร่งด่วนตามสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นกรณีเร่งด่วนตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2472 มาตรา 10 โดยคำร้องนี้ผู้ร้องขอศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา
ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายแมทธิว อเล็กซานเดอร์ จากมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำสั่งศาล
ศาลพิเคราะห์แล้ว ประเด็นพิจารณาว่ามีเหตุสมควรส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ เห็นว่า ตามทางไต่สวนผู้ร้องนำสืบว่า เมื่อปี 2561 สหรัฐอเมริกายื่นคำร้องขอให้ส่งตัวนายแมทธิวผู้คัดค้านไปดำเนินคดีตามหมายจับศาลมลรัฐฟลอริดาตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ศาลนี้จึงได้มีคำสั่งออกหมายจับนายแมทธิว และจับกุมตัวได้เมื่อเดือน พ.ย. 2561 ภายหลังจับกุม ผู้คัดค้านไม่ยินยอมให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี พนักงานอัยการจึงยื่นคำร้องให้คุมขังไว้ชั่วคราวระหว่างพิจารณา
ข้อเท็จจริงในการกระทำผิด เมื่อ ก.ย. 2560 ผู้คัดค้านได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิตในรัฐฟลอริดา มีพยานเป็นอดีตแฟนสาวของผู้คัดค้าน และพยานวัตถุเป็นกระสุนปืนที่อยู่ในท้ายรถของนายแมทธิว ซึ่งตรงกับผลตรวจพิสูจน์กระสุนปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรถของผู้คัดค้าน ขับเข้ามาในโรงจอดรถบริเวณสถานที่เกิดเหตุ
ศาลพิจารณาคำให้การของตำรวจไมอามีที่ได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดี และอัยการแห่งรัฐฟลอริดา และภาพถ่ายของผู้คัดค้านจากกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้กระทำผิดตามคำร้อง และคดียังไม่ขาดอายุความ อีกทั้งยังเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีสนธิสัญญาร่วมกัน เมื่อผู้คัดค้านไม่นำพยานหลักฐานเข้าสืบ พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านกระทำความผิดจริง จึงให้ขังผู้คัดค้านไว้เพื่อส่งตัวไปอเมริกาต่อไป โดยผู้คัดค้านสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 30 วัน