หนุ่มบางบอนซิ่ง จยย.บนสะพานต่างระดับกาญจนาภิเษก-บางแค ตกร่องถนนเสียหลักพลิกคว่ำ รถยนต์ทับร่างซ้ำแขนและขาหักเสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถ เผยจุดนี้มี จยย.พลิกคว่ำสังเวยชีวิตมาแล้ว รวมครั้งนี้เป็น 5 ศพ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.อ.ประธาน สีหาพล รอง สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุจักรยานยนต์พลิกคว่ำมีผู้ขับขี่ถูกรถยนต์ทับร่างซ้ำเสียชีวิตในช่องเลนด่วน บนสะพานต่างระดับกาญจนาภิเษก-บางแค ทิศทางมุ่งหน้าถนนพระราม 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนช่องเลนด่วน บนสะพานต่างระดับกาญจนาภิเษก-บางแค ที่อยู่เหนือถนนเพชรเกษม พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญพ 5285 กรุงเทพมหานคร จอดเปิดไฟกะพริบอยู่ตรงช่องทางเดินรถด้านขวาสุด โดยใต้ท้องรถพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชูเกียรติ คุ้มถิ่นแก้ว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241 ถนนบางบอน 3 แขวงและเขตบางบอน กทม. สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นลายพราง มีบาดแผลถูกล้อรถทับที่ลำตัว แขนและขาทั้งสองข้างหักผิดรูป ส่วนรถของผู้ตาย เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน คคฉ 358 ราชบุรี พลิกคว่ำไถลไปด้านหน้าไกลจากจุดพบศพประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายบรรลุศักดิ์ โพธิ์ทอง อายุ 55 ปี เจ้าของธุรกิจโรงกลึงซึ่งเป็นคนขับรถอีซูซุ รอมอบตัวพร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทางไปงานศพที่ จ.สุพรรณบุรี กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่ถนนสะแกงาม ย่านพระราม 2 จังหวะที่เร่งเครื่องขึ้นสะพานต่างระดับมาตามช่องทางเดินรถด้านขวาสุดรู้สึกว่ารถทับวัตถุบางอย่างขนาดใหญ่ จึงรีบเปิดไฟกะพริบจอดรถลงไปดูพบร่างผู้ตายติดอยู่ใต้ท้องรถตนเองแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าจักรยานยนต์ของผู้ตายพลิกคว่ำอยู่กลางถนนด้านหน้ารถตนเอง ห่างไปประมาณ 10 เมตรอยู่แล้วด้วย จึงไม่ทราบว่าผู้ตายประสบอุบัติเหตุรถล้มได้อย่างไร และล้มตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากรถตนไม่ได้เฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์ของผู้ตาย และตรวจสอบตัวถังรถรอบคันได้เลยว่าไม่มีร่องรอยเฉี่ยวชนกันอย่างแน่นอน
ด้านนายศิริชัย อ่ำสุข เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสนคร 0528 ให้ข้อมูลว่า ถนนบนสะพานต่างระดับแห่งนี้ถือเป็นช่องเลนด่วนของถนนกาญจนาภิเษก มีช่องทางเดินรถอยู่ด้วยกัน 3 เลน ส่วนสาเหตุที่จักรยานยนต์ของนายชูเกียรติล้มจนร่างถูกรถคู่กรณีทับนั้น เชื่อว่าเกิดจากการที่ล้อหน้าจักรยานยนต์ตกร่องถนนขนาดใหญ่ มีความกว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 20 เมตร ช่วงรอยต่อของถนนเลนกลางกับเลนด้านขวาสุด เนื่องจากรองเท้าแตะผู้ตายก็ตกอยู่ตรงนั้น ที่สำคัญระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ร่องถนนตรงจุดนี้ทำให้จักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำจนผู้ขับขี่ต้องสังเวยชีวิตมาแล้ว รวมครั้งนี้เป็น 5 ศพ ไม่นับผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับสิบรายที่รอดชีวิตมาได้
“อย่างไรก็ตาม หลุมร่องถนนที่ว่านี้จะไม่ทำให้รถยนต์หรือรถบรรทุกเสียการทรงตัวได้แต่อย่างใดเพราะล้อมีขนาดกว้างใหญ่กว่า ทว่าถ้าเป็นจักรยานยนต์พลาดแล่นตกลงไปจะต้องเสียการทรงตัวจนพลิกคว่ำกันแทบทุกคัน ซึ่งตามกฎหมายแล้วจักรยานยนต์จะไม่สามารถใช้ช่องทางเดินรถเลนด่วนได้ แต่ที่ผ่านมามีผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงการจราจรติดขัด ยิ่งถ้าใช้จักรยานยนต์แล่นในช่องเลนด่วนในช่วงเวลากลางคืนแล้วอาจมองไม่เห็นร่องถนนดังกล่าวเพราะไฟส่องสว่างก็ไม่ค่อยดี ทำให้พลาดเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้ง่าย ตนจึงอยากเตือนให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รักษาวินัยการจราจรอย่ามักง่าย ที่สำคัญไปกว่านั้นอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดมาตรวจสอบร่องรอยต่อบนถนนช่วงดังกล่าวเพื่อทำการแก้ไข จะได้ไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตขึ้นได้อีก” นายศิริชัยกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ประธานกล่าวว่า จากการติดต่อกับญาตินายชูเกียรติทางโทรศัพท์ เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวเป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ของอู่รถแห่งหนึ่งย่านบางบอน ก่อนเกิดเหตุกำลังขับขี่จักรยานยนต์กลับบ้านพัก โดยหลังจากนี้จะเชิญตัวนายบรรลุศักดิ์ คนขับรถอีซูซุไปสอบสวนอย่างละเอียดที่โรงพักเสียก่อน จากนั้นจะตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบนสะพานต่างระดับ และเสาะหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป