xs
xsm
sm
md
lg

คุก72 ปี “หมอโด่ง อดีตเลขาบุญทรง” โกงระบายข้าวจีทูจี ซี้"เสี่ยงเปี๋ยง” เจอ 32 ปี สั่งจ่าย 1.69 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online -ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สั่งจำคุก 72 ปี “หมอโด่ง อดีตเลขาบุญทรง” ทุจริตระบายข้าวจีทูจี พร้อมออกหมายจับกุม ส่วน“คนสนิทเสี่ยงเปี๋ยง” จำคุก 32 ปี จ่าย 1.69 หมื่นล้าน

วันนี้ (28 พ.ค.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ พิจารณารื้อคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนของอดีตเลขานุการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่หนีคดี ได้มีคำพิพากษาในคดีที่ “พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ” หรือหมอโด่ง อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ตกเป็นจำเลยที่ 3 และ “นายสุธี เชื่อมไธสง” คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ เป็นจำเลยที่ 16

โดยคดีนี้อัยการสูงสุดโจทก์ ได้ยื่นคำร้องเมื่อปี 2561 ขอให้ศาลนำคดีจำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 16 ที่ตัวหนีไประหว่างการพิจารณาคดีเมืิ่อปี 2558 ซึ่งศาลได้ออกหมายจับจำเลยทั้ง 2ไว้แล้ว ขึ้นมาพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 มาตรา 28 วรรคสอง หลังจากที่ศาลเคยมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบเป็นการชั่วคราว ซึ่งคดีดังกล่าวก็สืบเนื่องจากที่อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับเอกชนร่วม 28 รายในคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 และคดีหมายเลขแดง อม.178/2560 (ศาลตัดสินจำคุกนายภูมิ กับพวกรวม 18 รายไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2560) ซึ่งระหว่างการพิจารณากรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ได้ยื่นคำร้องขอให้นายสุธี เชื่อมไธสง คนสนิทของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยด้วย

ทั้งนี้ในการพิจารณาคดี องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ทั้ง 9 คน ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางไต่สวนและรายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว เห็นว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการนายบุญทรง รมว.พาณิชย์ มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ ซึ่งจำเลยที่ 3 ยังได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว แล้วต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ซึ่งมีพฤติการณ์ว่า จำเลยที่ 3 กับพวกร่วมกันวางแผนโดยแอบอ้างนำบริษัทกว่างตงฯ และบริษัทห่ายหนานฯ ซึ่งเป็นบริษัทค้าขายข้าวจากประเทศจีนเข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐตามสัญญาซื้อขายข้าวโครงการจีทูจีกับกรมการค้าต่างประเทศ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม ที่มีนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 กับพวกสนับสนุนด้วยการนำบริษัทค้าข้าวภายในประเทศมาทำสัญญาซื้อข้าวโครงการจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศในราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยไม่ได้มีการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศตามโครงการนั้นซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ ถือว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ร่วมกับพวกทุจริตในการระบายข้าวโครงการจีทูจีซึ่งศาลฎีกาฯ ได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ร่วมกระทำความผิดไปแล้ว ส่วนนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ได้ร่วมสนับสนุนจำเลยที่ 3 กับพวกกระทำความผิดดังกล่าวด้วย

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ จึงพิพากษาให้จำคุกพ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 รวม 4กระทงๆ ละ 18 ปี จำคุกทั้งสิ้น 72 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ให้จำคุกไว้เป็นเวลา 50 ปี

ส่วนนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ให้จำคุก 4 กระทงๆ ละ 8 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 32 ปี และให้จำเลยที่ 16 ชำระค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กับกระทรวงการคลัง ผู้ร้องที่ 5 ด้วย เป็นเงิน 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันทำสัญญา

โดยศาลฎีกาฯ ยังมีคำสั่งให้ออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัว “พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ” และ “นายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ” ที่ยังหลบหนีคดีมาบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีในส่วนของนายภูมิ กับนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ กับเอกชนนั้น ฝ่ายจำเลยที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4-48 ปี ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายอัยการสูงสุด ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยกลุ่มเอกชน 8 รายที่ยกฟ้องด้วย โดยขณะนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ก็ได้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ขณะที่นายภูมิ กับนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ , เสี่ยเปี๋ยง และเอกชน รวม 18 ราย ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นก็ยังไม่มีใครได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์แต่อย่างใด ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างรอคำฟังพิพากษาอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม. 282/2560 ที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของหมอโด่ง จำนวน 896,554,760.28 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดหมอโด่งกับพวกทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว และมีมติว่าหมอโด่งร่ำรวยผิดปกติ เมื่อหมอโด่งหลบหนีคดีไม่มาพิสูจน์ ศาลจึงฟังพยานของอัยการสูงสุดและหลักฐานของ ป.ป.ช. แล้วพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนวนดังกล่าวพร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน


กำลังโหลดความคิดเห็น