ข่าวลึกปมลับ : ขันหมาก “พลังประชารัฐ” สินสอดแพง-เจอป่วนแน่ !?

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2562 ตอน ขันหมาก “พลังประชารัฐ” สินสอดแพง-เจอป่วนแน่ !?



ขบวนขันหมากพร้อมสินสอด ที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ไล่ตั้งแต่ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน ยกขันหมากไปหมั้นหมายทางการเมืองกับสองพรรคสองตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล คือประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา

ขันหมากที่ยกไป ต้องถือว่า ฝ่ายประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย เรียกสินสอดแพงมาก จนมีข่าวว่าทำให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐบางคนอย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน ต้องออกมาจากวงหารือ ที่ตึกพรรคประชาธิปัตย์ย่านสามเสนก่อนการพูดคุยจะจบลง  

เนื่องจากประชาธิปัตย์ยืนกรานว่า การเข้าร่วมรัฐบาล พรรคต้องได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่ สมศักดิ์ ไม่ได้แค่เล็งเฉยๆ แต่ถึงขั้นให้สัมภาษณ์โป้งๆ ว่า ต้องการเป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์  เพื่อทำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ให้เป็นจริง อย่างเช่นนโยบายโคล้านตัว

แต่ประชาธิปัตย์ก็หักดิบ ไม่เกรงใจกลุ่มสามมิตร ยังจะยืนกรานขอคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง

โดยข้อเสนอเบื้องต้นของฝ่ายพลังประชารัฐยกไปพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับทีมเจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลของประชาธิปัตย์  ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน –นิพนธ์ บุญญามณี รู้ว่า ทางพรรคจะแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ประชาธิปัตย์   แยกเป็น 3 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ

ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการฯ กระทรวงที่พลังประชารัฐ จะให้ได้คือ กระทรวงพาณิชย์, เกษตรและสหกรณ์ และการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วน รมช. 4 เก้าอี้ คือ รมช. คมนาคม, มหาดไทย, ศึกษาธิการ และสาธารณสุข

หากเป็นไปตามนี้ ก็ถือว่า ดีลนี้ ประชาธิปัตย์ มีแต่ได้กับได้ เพราะได้ทั้งประธานสภาฯ ชวน หลีกภัย และยังได้กระทรวงใหญ่ อย่าง ก.เกษตรและสหกรณ์ ก.พาณิชย์ รวมถึงกระทรวงเกรดบี อย่างก.พัฒนาสังคมฯ ที่นำไปใช้ในการออกนโยบายหาเสียงกับคนระดับชาวบ้านรากหญ้าได้

แม้จะได้ตามที่ต้องการ แต่ประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงอย่างเป็นทางการกับพลังประชารัฐ โดยพรรคจะนัดประชุมนัดสำคัญในเย็นวันอังคารที่ 28  พ.ค. ที่จะเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับส.ส. ของพรรคทั้งหมด เพื่อหามติร่วมกันว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ

เวลานี้คนในพรรคปชป. แตกเป็นสองขั้ว มีทั้งพวกพวกส.ส.และกรรมการบริหารพรรคที่หนุนให้ร่วมรัฐบาล แต่ก็ยังมีบางกลุ่ม ที่ยังยืนยันไม่ต้องการให้พรรคไปร่วมรัฐบาล จึงต้องรอดูกันว่า

สุดท้ายแล้ว ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินชี้ขาดลงมติ ได้ภายในการประชุมเย็นนี้เลยหรือไม่ หรือจะยื้อออกไปอีกหลังดึงเช็งมาแล้วหลายนัด ก็ยังไม่มีแสดงท่าทีอันชัดเจนแต่อย่างใด

ขณะที่ขันหมากการเมือง ที่ไปหมั้นหมายกับพรรคภูมิใจไทย ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคมาต้อนรับแกนนำพลังประชารัฐด้วยตัวเอง ก็พบว่า ฝ่ายภูมิใจไทย ก็เรียกสินสอดที่แพงไม่ใช่เล่น ขอเก้าอี้รัฐมนตรีดังนี้

 รองนายกฯ 1 ตำแหน่ง, สามรัฐมนตรีว่าการฯ และสองรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ โดยข่าวบอกว่า สินสอดที่ภูมิใจไทยเรียกร้องดังกล่าว ฝ่ายแกนนำพลังประชารัฐ ก็อยู่ในสภาพ มีเท่าไหร่ ก็ต้องให้หมด เพื่อให้ได้ พรรคภูมิใจไทย มาร่วมหอลงโรง ลงเรือลำเดียวกันในรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ

แต่ดูแล้ว ดีลระหว่าง พลังประชารัฐกับภูมิใจไทย ไม่ซับซ้อนคุยง่าย ไม่เหมือนดีลระหว่างพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์

 เพราะภูมิใจไทย ก็เป็นรู้กันดีว่าคุยกับคนแค่สองคนก็จบ ไม่ต้องมีพิธีรีตองเรื่องมาก คือคุยกับแค่อนุทิน กับเนวิน ชิดชอบ เมื่อคุยรู้เรื่อง ก็จบเร็ว แม้ภูมิใจไทยอาจอ้างต้องผ่านกระบวนการเอาเข้าที่ประชุมพรรค ให้มีมติร่วมรัฐบาลบ้าง แต่ก็เป็นแค่การสร้างภาพทั่วไป ไม่ได้มีอะไรจริงจังเหมือนกรณีประชาธิปัตย์

 เลยทำให้มีข่าวว่า ดีลระหว่างพลังประชารํฐกับภูมิใจไทย น่าจะยุติแล้ว เหลือแค่ลงรายละเอียดเล็กน้อย อาจมีปรับจูนบ้างบางรายกระทรวงที่คีย์แมนพลังประชารัฐบางส่วน ก็ยังมีอาการหน้าตึงๆ ไม่อยากให้ภูมิใจไทยได้ไป

นั่นก็คือ กระทรวงคมนาคม แต่ก็จะดึงกลับยากแล้ว เพราะอำนาจการต่อรองของภูมิใจไทยที่มี  51 เสียง..น้อยกว่าประชาธิปัตย์แค่1เสียง อยู่ในสภาพได้เปรียบ ต่อรองได้เต็มที่

เพราะเมื่อพลังประชารัฐ ยอมให้เก้าอี้ประธานสภากับประชาธิปัตย์ได้ แล้วทำไมจะให้กระทรวงเกรดเอ พรีเมี่ยมกับภูมิใจไทยบ้างไม่ได้ ทำให้ดีลระหว่างพลังประชารํฐกับภูมิใจไทย ชัดกว่าของพรรคประชาธิปัตย์

หากดีลลงตัว ก็คงได้เห็น เสี่ยหนู อนุทินกลับไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงหมออีกครั้ง หลังเคยนั่งเป็นรมช.สาธารณสุขมาแล้วยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร แต่รอบนี้จะพาสชั้นขึ้นเป็น รมว.สาธารณสุข ควบรองนายกฯเลยทีเดียว เพื่อไปผลักดันนโยบายกัญชาเสรี ตามที่เคยหาเสียงไว้

ส่วนน้องชายสุดที่รักของเนวิน  คือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ถ้าโผไม่พลิก พลังประชารัฐ ดึงกลับไปไม่สำเร็จ ก็อาจได้เห็น น้องเนวิน อดีตสิงห์แดง ธรรมศาสตร์ ผงาดเป็นรมว.คมนาคม ให้เป็นที่ชื่นใจของปู่ชัย ชิดชอบ ผู้เป็นบิดาเนวิน/ศักดิ์สยาม 

ขณะที่ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภูมิใจไทย อดีตหัวหน้าสำนักงาน ชัย ชิดชอบ สมัยเป็นประธานสภาฯ นักธุรกิจค้าน้ำมัน นายทุนใหญ่ พรรคเนวิน ที่สร้างผลงาน นำภูมิใจไทย ทะลวงได้หลายเก้าอี้ในภาคใต้ ก็จะได้รางวัลตอบแทน

เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่ไปหักมาจากกลุ่มพลังชลของสนธยา คุณปลื้ม ที่เดิมวางตัว น้องชาย  อิทธิพล คุณปลื้ม อดีตผอ.พรรคพลังประชารัฐ อดีตนายกฯเมืองพัทยา จนมีข่าวว่า สนธยา คุณปลื้ม ก็พยายามจะคุยกับฝ่ายเนวิน อดีตเพื่อนรักกลุ่ม16 เพื่อขอให้กระทรวงท่องเที่ยวฯอยู่ในโควต้ากลุ่มตะวันออก ชลบุรี พลังประชารัฐ  

 ส่วนระดับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยฯ ข่าวว่า เนวิน-เสี่ยหนู วางตัวหลักๆ ไว้ครบเกือบหมดแล้ว เช่น ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ผู้กว้างขวางในพื้นที่ภาคกลาง  ที่ย้ายมาจากชาติไทยพัฒนา ก็อาจได้ไปนั่งเป็น  รมช.มหาดไทย ให้ข้าราชการกระทรวงคลองหลอด คอยกราบไหว้ต้อนรับ โดยมี ทรงศักดิ์ ทองศรี นักการเมืองคนสนิท เนวิน อาจไปนั่งเป็น รมช.เกษตรฯ

เมื่อมีได้ก็มีเสีย ทั้งประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ที่จับมือกันแน่น ทั้งบีบ ทั้งต่อรอง พลังประชารัฐ อย่างหนัก ในการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี –ประธานสภาฯ จนพลังประชารัฐ แทบต้องประเคนให้ทุกอย่าง ฝ่ายพลังประชารัฐเป็นฝ่ายที่ต้องเฉือนเนื้อตัวเอง เ้วยเหตุนี้ปัญหาภายในอาจจะระเบิดขึ้นได้

โดยที่แกนนำพรรคบางส่วนก็แฮปปี้ ด้วยที่ได้ตำแหน่งอย่างที่ต้องการแล้ว เช่น ณัฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคอาจจะได้เป็นรมว.พลังงาน ,อุตตม สาวนายน น่าจะไม่พลาดกับเก้าอี้ รมว.คลัง แต่บางกลุ่มในพลังประชารัฐ กลับไม่ได้อย่างที่หวังไว้เช่น

กลุ่มสามมิตร ที่สมศักดิ์ หากไม่ได้เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็อาจตอบคำถามส.ส.ในกลุ่มของตัวเองไม่ได้ว่า ทำไม ไม่ได้อย่างที่ต้องการ ทั้งที่ทุ่มเททำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐมาตั้งแต่ต้น

ด้วยเหตุนี้ แกนนำพลังประชารัฐหลายกลุ่ม เริ่มมีข่าว พยายามจะเคลื่อนไหวต่อรอง แสดงพลังให้คนในพรรคโดยเฉพาะพวกกลุ่มอดีต สี่รัฐมนตรี อย่าง อุตตม-สนธิรัตน์และคนในรัฐบาลคสช.อย่าง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เห็นว่าฝ่ายตัวเองก็มีฤทธิ์เดช พร้อมจะแสดงทุกเมื่อ

จึงทำให้ตอนนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มสามมิตร ที่พยายามจะให้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ไปต่อรอง กับฝ่ายประชาธิปัตย์ ให้เอากระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับมา โดยแลกกับกระทรวงศึกษาธิการ
 
ดูไปแล้ว หากภายในพรรคพลังประชารัฐ เคลียร์กันไม่ลงตัว หลายกลุ่มหลายมุ้งออกลูกดื้อ ตั้งแง่ ตีรวน มันก็อาจได้เห็น อาการฟาดงวงฟาดงา แบบที่เกิดขึ้น ตอนที่  สุชาติ ตันเจริญ และส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่เห็นด้วยที่พรรคไปให้เก้าอี้ประธานสภากับ ประชาธิปัตย์แบบง่ายๆ  จนเกือบมีรายการล็อกถล่ม
 
ดังนั้น สินสอดที่ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ขอมาแพงๆ ก็ใช่ว่า กลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐจะเออออยอมให้ง่ายๆ แต่กลับเกิดความไม่พอใจขึ้นมา เป็นความไม่แฮปปี้ ที่พร้อมปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ เมื่อโอกาส และจังหวะมาถึง