MGR online - อัยการระบุกรณี “เสี่ยเบนซ์” ยินดีเยียวยา 45 ล้าน ครอบครัว “รองตี๋” เป็นประโยชน์ทางคดี ให้ศาลใช้ดุลพินิจบรรเทาผลร้าย ลงโทษสถานเบา
วันนี้ (24 พ.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด ได้ให้ความเห็นข้อกฎหมาย กรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เสี่ยเจ้าโรงงาน ผู้ต้องหาในคดีขับรถเบนซ์ ชนรถเก๋ง พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. เสียชีวิตพร้อมภรรยา และลูกสาวได้รับบาดเจ็บ เเละต่อมาผู้ต้องหาพูดคุยไกล่เกลี่ยเยียวยาความเสียหายทางเเพ่งแก่ญาติผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนเงินกว่า 45 ล้านบาท ว่า คดีนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของคดีอาญาทางอัยการก็จะต้องพิจารณาสำนวนตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนสรุปความเห็นส่งมา หากยังสงสัยอัยการจะสั่งพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมได้ เเต่หากเห็นว่าพยานหลักฐานดังกล่าวฟังได้เเล้วอัยการก็จะทำความเห็นเเละเรียกตัวผู้ต้องหามาฟังการสั่งฟ้องคดี
ส่วนเรื่องทางเเพ่ง หากผู้เสียหายเยียวยาบรรเทาผลร้ายจนเป็นที่พอใจของญาติผู้เสียหายเเล้ว ก็จะถือว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับตัวผู้ต้องหา เพราะเมื่อญาติผู้เสียหายพอใจการบรรเทาผลร้าย หากในกรณีที่อัยการมีความเห็นฟ้องคดีขึ้นสู่ศาล ฝ่ายผู้เสียหายก็อาจจะเเถลงต่อศาลว่าได้รับการบรรเทาผลร้ายจากจำเลยจนเป็นที่พอใจ และหากตัวจำเลยรับสารภาพ ศาลก็จะมีอำนาจลดโทษกึ่งหนึ่งไปด้วยแล้วศาลยังอาจใช้ดุลพินิจในการพิจารณาลงโทษจำเลยสถานเบาจากที่มีการบรรเทาผลร้ายได้อีก ส่วนจะใช้ดุลพินิจอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับศาล
โดยส่วนตัวเห็นว่า การที่ นายสมชาย ชดเชยเยียวยาเป็นเงินกว่า 45 ล้านบาท ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจะเป็นประโยชน์กับผู้ต้องหามากเเละเเสดงให้เห็นว่าจำเลยพร้อมที่จะบรรเทาผลร้ายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะไปปรากฏในชั้นศาลได้ โดยญาติผู้เสียหายหรือจำเลยขึ้นเเถลงศาลเมื่ออัยการสั่งฟ้องคดีไปเเล้ว หรือจำเลยยื่นข้อมูลตรงนี้ไปยังพนักงานอัยการที่ทำสำนวนคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของคดีอาญานั้น เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เสี่ยเจ้าโรงงานขับรถเบนซ์ ชนรถเก๋ง พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. เสียชีวิตพร้อมภรรยา เเละลูกสาวได้รับบาดเจ็บ มายังสำนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 5ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พยายามฆ่าผู้อื่นฯ ,ขับรถโดยประมาทอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบัตรเจ็บสาหัส,ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ,ขับรถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตายบาดเจ็บสาหัส
โดยขณะนี้ทางอัยการได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนซึ่งคาดว่าจะพิจารณาเเล้วเสร็จได้ก่อนครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหา