MGR online -ปรากฏการณ์ “เพื่อนโชค”กลายเป็นประเด็นทางสังคมหยิบมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางขนาดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ยังให้ความสนใจสั่งย้ายกลับด่วนตำรวจชั้นผู้น้อย เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ส่วน 2 เกลอ “เพื่อนโชค”ประกอบด้วย “บิ๊กยุติธรรม”กับ ผกก.เจ้าของท้องที่กำลังอ่วมอรทัย
โดยฝ่ายหนึ่งถูกมองว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่อวดเบ่งข่มขู่ตำรวจชั้นผู้น้อย ผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ขณะเดียวกันนายตำรวจผู้บังคับบัญชาสายตรงประจำสถานี จะถูกย้ายหรือไม่ประการใดยังเป็น “ลูกผีลูกคน”
กระแส “เพื่อนโชค”มาแรงแต่คง “ไปเร็ว”ที่สุดคงกลายเป็นไฟไหม้ฟางแต่ปัญหาต่างๆยังคงถูกทิ้งไว้ ประมาณว่าสังคมได้แสดงออกทางอารมณ์แต่สังคมจะได้อะไรจากเรื่องนี้คงต้องหยิบยกมาคุยกันยาวๆ มองให้ถึงแก่นถึงปัญหาที่แท้จริง
พูดถึงด่านตรวจของตำรวจหากไม่นับเรื่อง “เพื่อนโชค”ส่วนใหญ่เกือบ 100%มีแต่ตำรวจถูกด่า
ตำรวจรีดไถ หาเรื่องจับ-ปรับ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรงไปตรงมาส่วนใหญ่มีแต่หาเรื่องกลับกลายเป็นว่ามาตรการต่างๆทั้งกวดขันวินัยจราจร หรือป้องกันปราบปรามอาชญากรรม กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านไปซะงั้น
ก่อนจะลงในรายละเอียดมีข้อมูลน่าสนใจโดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับด่านตรวจต่างๆว่าในประเทศไทยมีด่านตรวจ 3 ลักษณะคือ 1.ด่านตรวจถาวร 2.จุดตรวจ 3.จุดสกัด
“ด่านตรวจถาวร”ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง หรือ กอ.รมน. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมปฏิบัติงานในทุกด่านจะต้องมีตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศตั้งแต่ ร.ต.ต.ขึ้นไปคอยกำกับดูแล แต่งเครื่องแบบแสดงตนชัดเจน ใช้วาจาสุภาพ อธิบายว่าตั้งด่านเพื่ออะไร มีป้านแสดงรายละเอียดผู้ควบคุม มีป้ายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้บังคับบัญชา หากเป็นเวลากลางคืนจะต้องมีแสงสว่างมองเห็นในระยะ 150 เมตร
“จุดตรวจ” มีขนาดเล็กกว่าด่าน กำหนดเวลาและจุดตั้งด่านจะทำโดยคำสั่งของ ผบก.ในพื้นที่นั้นๆ สามารถเคลื่อนย้ายได้เร็วภารกิจคือตรวจทั่วไปมีทั้งด่านกวดขันวินัยจราจร ปราบปรามป้องกันอาชญากรรม ความมั่นคง ตรวจแอลกอฮอล์ ยาเสพติดและตรวจควันดำ แต่ห้ามปฏิบัติหน้าที่เกินกว่า 24 ชั่วโมง
“จุดสกัด” มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ใช้กรณีฉุกเฉินเช่นสกัดการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย สกัดบุคคลและเมื่อจบภาระกิจนั้นๆต้องเลิกจุดสกัดโดยทันที
รองโฆษกฯ สตช.ยังอธิบายอีกว่าการจะเรียกพาหนะใดๆตรวจจะต้องมีเหตุสงสัย หรือความผิดซึ่งหน้าเช่นรถ จยย.ไม่สวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร คุยโทรศัพท์ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเป็นต้น
จากหลักการนี้หากอ่านกันดีๆตีประเด็นให้แตกจะเห็นว่า จนท.จะเรียกตรวจรถคันใดต้องมีเหตุอันควรสงสัยซึ่งพอยกตัวอย่างคร่าวๆได้ว่าพบคราบเลือด ท้ายรถหรือกระโปรงหลังห้อยคล้ายบรรทุกของหนัก ป้ายทะเบียนปลอม พิรุธผู้ขับขี่ ผู้โดยสารหรือรถแต่งจนผิดรูปแบบเดิม
มีคำถามต่อไปว่ากรณี “เพื่อนโชค”ตำรวจผู้เรียกตรวจใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเรียกขอตรวจใบขับขี่ !!??
ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายท่านคงถึงบางอ้อโดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถใช้ถนนกันเป็นประจำ
หลายคนขับรถตามกฎจราจรทุกประการ ไม่แซงในที่คับขัน ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ป้ายเสียภาษีตรงเวลา สีรถถูกต้องตามการขออนุญาต ไม่ดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์แต่บางครั้งเราจะเห็นว่าแม้แต่ข้อหาหยุมๆหยิมๆเพราะคุณพี่ไม่มีเหตุให้เรียกแต่มักจะ “หาเหตุ”เดินวนรอบรถ
อะไรนิดอะไรหน่อยก็จะจับ-ปรับซึ่งมีทั้งบริการแบบลดครึ่งไม่ออกใบสั่ง หรือราคาเต็ม 400-500 หรืออาจถึง 1 พันบาทตามแต่พระเดชพระคุณท่านจะว่าไป
จากปรากฏการณ์กรณี “เพื่อนโชค”สะท้อนข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่าหากเหตุเกิดกับประชาชนทั่วไปอย่าว่าแต่อ้างรู้จักคนใหญ่คนโตเลยแม้แต่จะขอลดหย่อนหรือให้ว่ากล่าวตักเตือนซึ่งสามารถทำได้แต่มักถูกปฏิเสธ
มีข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดตำรวจไทยจึงชอบการตั้งด่าน
ต่างกับนานาประเทศซึ่งหาตำรวจตั้งด่านบนถนนหลวงได้ยากมากหรืออาจไม่เห็นเลย
ภาพจริงที่ปรากฏประหนึ่งว่าคนไทยไม่เคารพกฎจราจร มีความหย่อนยานทางวินัยกันอย่างเหลือเกิน หรืออาชญากรรมโจรผู้ร้ายยาเสพติดมันมีมาก เป็นเมืองอันตรายจึงต้องเจอด่านมากมาย เช่นเส้นทางสู่ภาคอีสานสายมิตรภาพเจอตั้งแต่ จ.สระบุรี ยันเลี้ยวขวาโคราช ถึงขอนแก่น ไม่ต่างกับเส้นทางสู่ภาคเหนือสายเอเซีย มีด่านตั้งแต่ จงพระนครศรีอยุธยา ยันเชียงใหม่ เชียงราย สายตะวันออก และสายใต้ ถนนเส้นเดียวกันแต่มีด่านสารพัด
แถมด้วยกล้องวงจรปิดทั้งจับความเร็ว กล้องเลนเชนจ์ ตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนช่องทางเดินรถ เรียกว่ามีมาตรการอะไรทั้งระบบ Manual หรือ Hi – Tech 4.0 ตำรวจไทยประเคนใส่ชาวบ้านแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ
ผลของการบังคัญใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และมีไม่น้อยที่เอากฎหมายไปทำมาหากินทั้งแบบทุจริต 100% หรือหารายได้จากส่วนแบ่งค่าปรับทำให้ประชาชนคนไทยผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนไม่น้อยเกิดความอึดอัด คับแค้นขนาดเกิดชมรม ตัวแทนหรือแอดมินเพจโลกโซเชียลมีเดีย ออกมาทะเลาะกับตำรวจแทบไม่เว้นแต่ละวัน
ไหนๆก็เกิดเรื่อง “เพื่อนโชค”ขึ้นมาแล้ว ถ้าท่านนายกฯต้องการไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนกับตำรวจ หรือตำรวจกับประชาชนในเรื่องไร้สาระแบบนี้กรุณาสั่ง “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. หรือใครก็ได้ที่ดูแลภาพรวมเรื่องการจราจร
ลด ละ เลิกด่านรีดไถ สร้างความเดือดร้อนประชาขนซักทีเพราะคนไม่มีเส้น คนที่มีปากเหมือนมีตูด ไม่ได้เป็น “เพื่อนโชค”มีอยู่ทั่ว และเงินค่า “ข้าวหมา”ที่เขากล้ำกลืนเสียไปเขาด่าใครล่ะถ้าไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับรัฐบาล...รีบๆปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน