ยายวัย 87 ปี ถูกรถชน ยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล แพทย์แย้มอาจจะต้องรักษาอีกประมาณ 3-6 เดือน ผกก.สภ.ปลายบาง เข้าเยี่ยม สอบปากคำญาติ เร่งรวบรวมหลักฐานส่งฟ้อง ด้านผู้ต้องหาเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เปรยอยากขอโทษยาย
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 62 ที่ชั้น 9 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ถนนนนทบุรี อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.วัชรินทร์ เมืองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายบาง พร้อมพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าเยี่ยมอาการนางคล้าย รัศมีนา อายุ 87 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บหลังถูกรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 2 ฒก 8951 กทม. ถอยหลังชนและทับร่าง พร้อมทั้งสอบปากคำ น.ส.พิทยา รัศมีนา อายุ 52 ปี ลูกสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ และ น.ส.พัชรดา เลิศเวชปรีชา หลานสาว จากนั้นได้เดินทางเข้าพบแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อขอผลการตรวจร่างกาย
น.ส.พิทยา รัศมีนา อายุ 52 ปี กล่าวว่า วันนี้ยายบ่นอยากกลับบ้าน ให้ตัดเอาผ้าก๊อซออก ยายลุกนั่งได้นิดหน่อย ถ้านั่งนานแกจะไข้ขึ้น มึนหัว ต้องให้แกลุกบ้างเดี๋ยวแกติดเตียง ต้องทำกายภาพทุกวัน ส่วนตำรวจมาเยี่ยมบอกว่าจะเร่งดำเนินการให้ ตนรู้สึกดีใจมากจะได้รับความเป็นธรรม รอมานานมาก สำหรับคู่กรณีนั้นไม่ทราบว่าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือยัง แต่ตำรวจแจ้งว่าจะให้เข้าไปพบคู่กรณี 3 พ.ค.นี้
ด้านนางคล้าย รัศมีนา กล่าวว่า เดินกลับบ้านไปซื้อกับข้าวมา รถมาข้างหลังชนเลย แล้วไปโรงหมอยายแทบจะตาย แทบจะไม่รอด ยายอยู่คนเดียว ตำรวจไม่ว่ายังไง อยากให้ตำรวจทำให้เสร็จ ยายถูกรถชนยายเจ็บเยอะ ยายอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่บ้านคนอื่น อยากอยู่บ้านเรา ยายจะหายแล้ว
พ.ต.อ.วัชรินทร์ เมืองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายบาง กล่าวว่า เข้าเยี่ยมอาการคุณยายแล้ว อาการบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ไม่สามารถเขียนหนังสือได้ ได้สอบปากคำญาติ 2 คน รักษาตัวมาตั้งแต่วันที่ 31 ผ่านมาร่วมเดือน ยังไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล จึงได้สอบปากคำญาติ วันนี้ได้สอบถามหมอเจ้าของไข้ ทราบว่ามีหมอหลายท่านที่เข้ามาตรวจดูอาการจึงต้องให้แพทย์ทั้งหมดวินิจฉัยร่วมถึงจะออกใบรับรองแพทย์ให้ได้ แพทย์ยืนยันว่ารักษาเกิน 20 วัน และอาจจะต้องรักษาอีกประมาณ 3-6 เดือน แต่ใบแพทย์ยังไม่สามารถออกให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีไปแล้วว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งทางเราจะทำเรื่องดำเนินคดีทันที ส่วนค่าเสียหายคู่กรณีได้ดำเนินการทางด้าน พ.ร.บ.แล้วมีประมาณ 50,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายทางด้านอื่นๆ ต้องเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันอีกครั้ง ส่วนที่มีการแจ้งว่าคู่กรณีเมาสุรานั้น ต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานเพิ่มเติม แต่การแจ้งความในวันถัดมาทำให้ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ จึงไม่สามารถตรวจวัดได้ จะรีบรวบรวมหลักฐานและสอบพยานจะเร่งให้ทำการส่งฟ้องให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งผู้ต้องหากำลังทำงานรับจ้างลอกคลองอยู่ นายศุภชัย พิเคราะห์พิจิตร อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ทับยาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปงานเลี้ยงมา ไม่ได้ดื่มสุรา ไปงานนั่งเฉยๆ ตอนที่ขับเข้าซอยนั้นไปหาพี่และไม่ทราบว่าทับคนคิดว่าทับก้อนหิน หลังเกิดเหตุตนก็ไปเยี่ยม มีช่วงหนึ่งที่ภรรยาคลอดลูกจึงไม่ค่อยได้ไป ส่วนเรื่องเยียวยานั้นไม่ค่อยมีเงิน อยากขอโทษยาย ตนมองไม่เห็น เมื่อเช้าได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว