รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 24 เมษายน 2562 ตอน “กลุ่มภูธร” สายบิ๊กตู่ผงาด ใต้-เหนือ มีลุ้นเข้าวิน รมต.
ก๊วนการเมืองที่เข้ามาประดับอยู่ในพรรคพลังประชารัฐหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักการเมืองรุ่นเก่าอย่างกลุ่มสามมิตร กลุ่มโคราช ภายใต้การนำของนายวิรัช รัตน์เศรษฐ หรือจะเป็นกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่ได้พูดถึงไปแล้ว
ยังมีกลุ่ม “นักเลงภูธร” ที่เข้ามาซบพลังประชารัฐอีกหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มทำผลงานได้ดีแทบทุกพื้นที่ ชนะเลือกตั้งได้ส. ส. มาเป็นที่พอใจ ถ้าหากบิ๊กตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา คัมแบ๊คนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล กลุ่มนักเลงภูธรก็ต้องมีโอกาสเข้ามาเบียดโควต้ารัฐมนตรีด้วยทั้งนั้น
กลุ่มนักเลงภูธรในพลังประชารัฐ ที่มีขุมกำลังเป็นปึกแผ่น ประกอบด้วย “กลุ่มปากน้ำ”ของ นาย ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ซึ่งตัวเองลงเล่นการเมืองไม่ได้เพราะติดโทษแบนตลอดชีวิต มารอบนี้ จึงทำได้แค่อยู่เบื้องหลังการวางขุมกำลังให้พลังประชารัฐ
จนทำให้พรรคได้ส. ส. ที่สมุทรปราการมา6 คนจาก7ที่นั่ง โดยพรรคเพื่อไทยแพ้หมด ยกจังหวัด ทั้งที่สมุทรปราการเคยเป็นฐานทัพใหญ่ของเพื่อไทยและเสื้อแดงในภาคกลาง กลุ่มปากน้ำของชนม์สวัสดิ์ จึง เป็นอีกกลุ่มที่ต่อไปจะมีบทบาทในพลังประชารัฐมาก
ถัดมา เป็นกลุ่มกำแพงเพชร ของนาย วราเทพ รัตนากร ซึ่งพาลูกทีมชนะยกจังหวัด กวาดมา 4ที่นั่ง รวมถึงยังไปช่วยวางแผนเลือกตั้งให้พรรคในบางจังหวัดด้วย
คาดว่า กลุ่มกำแพงเพชร หรือ ชากังราว คงได้โควต้ารัฐมนตรี แม้วราเทพ เป็นไม่ได้ เพราะติดโทษแบน ก็มีสิทธิ์ส่งคนในสายไปเป็นรัฐมนตรีแทน
อีกกลุ่ม เป็นกลุ่มภาคใต้ โดยการนำของพันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิกสปท.เพื่อนร่วมรุ่นพลเอกประยุทธ์ ที่สร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ ให้พลังประชารัฐกวาดส.ส.เขตในภาคใต้มาได้ถึง13คน
แถมบางจังหวัด ไม่มีใครคาดคิดว่าจะชนะได้ เช่นที่จ. ตรัง ,สงขลา ,นครศรีธรรมราช ,ยะลา และจ. ภูเก็ต ทำเอาวลีที่ว่า ที่ภาคใต้ ประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้า ก็ชนะ สิ้นมนต์ขลังไปแล้วนับจากนี้
เบื้องหลังความสำเร็จของพลังประชารัฐในภาคใต้ แม้จะมี คนอยู่เบื้องหลังหลายคนเช่น อนุมัติ อาหมัด อดีตสนช. เศรษฐีใหญ่ภาคใต้ ที่ทั้งมาร่วมลงขันด้านเงินทุน และวางแผนการเลือกตั้งให้พรรค รวมถึงพลเอกนอกราชการ ที่เป็นสนช.ที่อยู่เบื้องหลังอีกอย่างน้อยสองคน
แต่เครดิตทั้งหมดของพรรคในภาคใต้ ยังไง ก็ต้องยกให้พ. อ.สุชาติ ที่เป็นหัวหน้าทีมพลังประชารัฐ ในภาคใต้ตั้งแต่ก่อตั้งพรรค โดยที่พ.อ.สุชาติ ไม่ได้เป็นทั้งกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ของพลังประชารัฐ
แต่ก็คาดว่าจากผลงานครั้งนี้ หากมีโควต้ารัฐมนตรีให้สายภาคใต้สักหนึ่งเก้าอี้ ดูแล้ว หากไม่ใช่ พ.อ.สุชาติ ก็อาจเป็น นายอนุมัติ อาหมัด ที่ต้องตัดสินใจ ระหว่างจะเป็นรัฐมนตรี หรือจะเป็นส. ว.ในชุดใหม่ที่กำลังจะเปิดชื่อในอีกไม่นานนี้
สำหรับกลุ่มตะวันออก ของสนธยา คุณปลื้ม ทำผลงาน ยังไม่เข้าเป้ามากนัก เพราะขนาดพื้นที่ชลบุรี เขตอิทธิพลแท้ๆยังไม่ชนะยกจังหวัด แพ้ให้พรรคอนาคตใหม่ไปสองที่นั่ง
แถมน้องชาย คือนาย อิทธิพล คุณปลื้ม กรรมการบริหารพรรค อดีตนายกฯเมืองพัทยา ยังเสียฟอร์มสอบตกแบบล็อกถล่มเมืองชลฯ
บางจังหวัดในโซนตะวันออก พลังประชารัฐ ก็แพ้แบบผิดคาดเช่นที่จันทบุรี ทั้งที่มีอดีตส.ส.หลายสมัยอยู่ในสังกัด อย่างไรก็ดีมีข่าวว่า กลุ่มสนธยา หากเป็นไปได้ ก็ต้องการโควต้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ มาบริหาร
มาถึงกลุ่มที่สำคัญ คือ กลุ่มภาคเหนือตอนบนสาย ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคสายภาคเหนือ รอบนี้ถือว่าทำผลงานได้ดี แม้จะเจาะพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่าง เชียงใหม่-เชียงราย ไม่ได้ แต่ทีมตัวเองได้2ใน3ที่นั่งที่พะเยา และบางจังหวัดก็กวาดมาได้เช่น จ. แม่ฮ่องสอน
นอกเหนือจากนี้ ก็จะมี กลุ่มเล็กๆ แตกย่อยไปอีกในพลังประชารัฐ เช่น กลุ่มสระแก้วของฐานิสร์ เทียนทอง ที่ประกาศศักดา กวาดสามที่นั่ง ล้มทีมลุงตัวเอง เสนาะ เทียนทอง แพ้ราบคาบ ทำเอาเฒ่าเสนาะเสียหน้าครั้งใหญ่ สิ้นลาย เฒ่าวังน้ำเย็น ผู้มากบารมีที่สระแก้ว
หรือ กลุ่มบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ ที่รอบนี้กลับมาเป็นว่าที่ส.ส.ได้อีกครั้ง โดยกลับมาบนเป้าหมาย ขอลุ้นเก้าอี้ ประธานสภาฯ ในโควต้าพลังประชารัฐ
แต่มีกระแสข่าวว่า พลังประชารัฐ จะเอาเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการให้ประชาธิปัตย์ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ
ความเคลื่อนไหวของสุชาติ เดินเกมจะจับมือกับวราเทพ อดีตกลุ่ม16 ด้วยกัน เป็นทีมเดียวกัน เพื่อเพิ่มโควต้าส.ส.ของกลุ่ม ในพลังประชารัฐ จะได้สร้างอำนาจการต่อรองภายในพลังประชารัฐ
พรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นที่ชุมนุมจอมยุทธ์น้อยใหญ่ ที่ทุกกลุ่มมีกองกำลังของตัวเอง เป็นอำนาจต่อรอง มารวมกันอยู่ใต้ปีกของพรรคและพลเอก ประยุทธ์ ก็ต้องดูว่าพลเอก ประยุทธ์จะสยบศึกสายเลือดในพรรคได้หรือไม่