รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2562 ตอน ศึกสายเลือดใน พปชร. เปิดฉากชิงเก้าอี้ รมต.
การช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลของขั้วพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายพรรคพลังประชารัฐและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดว่าจะเข้มข้นขึ้นหลังผ่านพ้นวันที่ 9 พ.ค. หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ให้ครบตามจำนวน
เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนส.ส.เขต จากนั้นจะได้นำไปสู่การคิดคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคการเมืองต่อไป
แต่ด้วยความมีแฮนดิแคป ขั้วพลังประชารัฐ มีแต้มต่อเหนือฝ่ายเพื่อไทยเพราะมีวุฒิสมาชิก 250 เสียงอยู่ในมือที่จะมาเติมเต็มเสียงโหวตนายกฯ 376 เสียง ด้วยเหตุนี้ ชั่วโมงนี้ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดัน “บิ๊กตู่ คัมแบ็ค”นายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐบาลคงจะผ่านโดยไม่มีปัญหา
เรื่องตั้งนายกฯและรัฐบาลในระยะสั้นนี้จึงไม่เป็นความกังวลของขั้วนี้ แต่ระยะยาวน่าเป็นห่วง รัฐนาวาบิ๊กตู่ไม่เสถียร ไม่มีความมั่นคงแน่ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ น่าจะเป็นรัฐบาลอายุสั้น อาจอยู่ไม่เกินหนึ่งปี
และหากพลังประชารัฐ ได้เป็นรัฐบาล สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ติดตามก็คือ การแบ่งโควต้ารัฐมนตรีกันภายในพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคที่มีกลุ่มการเมือง นักเลือกตั้งมากมายหลายกลุ่ม หลายก๊วน เข้ามารวมตัวกันในพรรคพลังประชารัฐ
แกนนำหลายกลุ่มที่มาทำงานการเมืองร่วมกันในนาม “พลังประชารัฐ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน” คือมาเพื่อที่จะได้และมีตำแหน่งทางการเมือง เพราะนักการเมืองพวกนี้ห่างจากอำนาจรัฐ และตกงานมานานถึงห้าปี หนำซ้ำยังเป็นคนถูกไล่ล่าจากคสช. จึงต้องการกลับมาเป็นผู้มีอำนาจเหมือนเคยเป็นอีกครั้ง
การมาตั้งพรรคพลังประชารัฐด้วยกัน ก็เพราะมั่นใจว่า แทงหวยไม่ผิดแต่ เนื่องจากอยู่พลังประชารัฐ อยู่ในฝ่ายอำนาจรัฐมีความเปรียบมากเป็นโล่ป้องกันการสู้ศึกเลือกตั้งได้อย่างดี
รวมถึงทุนรอนที่พรรคพลังประชารัฐจัดให้ตอนเลือกตั้งเต็มที่ แถมรัฐธรรมนูญก็ เอื้อให้ เช่นมีสว. 250เสียงคอยหนุนหลัง อย่างไรก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล
ทุกคนมาก็คิดสูตรเดียวกัน และหวังว่า มาอยู่กับพลังประชารัฐแล้วจะได้เป็นรัฐมนตรี
ด้วยเหตุนี้ เชื่อได้ว่า หากพลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาลสำเร็จไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก หรือรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ถึงตอนนั้น การแบ่งโควต้ารัฐมนตรี การจัดสรรตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ อาจมีปัญหาช่วงชิงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเกิดปัญหาภายใน เป็นรอยร้าวจากความขัดแย้งตามมา
เมื่อสแกนดูขุมกำลังต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะต้องได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลกันตามสัญญา ก็จะพบกลุ่มหลักๆ คือ
กลุ่มสี่กุมาร หรือกลุ่ม4อดีตรัฐมนตรี ที่ประกอบด้วย อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค,สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค
ซึ่งเบื้องหลังของกลุ่มสี่อดีตรัฐมนตรี จะมีเงาของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ อยู่อีกชั้นหนึ่ง
โดยกลุ่มสี่กุมาร ถือเป็นกลุ่มคีย์แมนตัวจริงของพลังประชารัฐ เพราะมีส่วนสำคัญทั้งการวางแผนตั้งพรรค คิดและทำนโยบายพรรคต่างๆ วางแคมเปญหาเสียงให้กับพรรคจนถึงวันสุดท้าย โดยเฉพาะรายการที่เอา”บิ๊กตู่”มาขึ้นเวทีร้องเพลง “หยุดตรงนี้ที่เธอ” ที่สนามศุภฯ จนคะแนนพลังประชารัฐแรงในตอนท้าย
และสี่กุมารยังเป็นกลุ่มที่คอยดีลกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ให้มาอยู่รวมกันที่พลังประชารัฐ จึงทำให้กลุ่มสี่กุมาร เป็นแกนนำหลักของพลังประชารัฐ ที่ “บิ๊กตู่”จะคอยประสานด้วยตลอดเวลาในช่วงตั้งรัฐบาลต่อจากนี้
ดังนั้น พลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ยังไง4 คนนี้ก็มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐมนตรีแน่นอน เว้นแต่โควต้าเต็ม ก็อาจมีบางคนหลุดไป ยังคาดว่าในสี่คน โอกาสกลับมาอย่างน้อยก็ต้องสามคน
โดยในกลุ่มสี่กุมาร ยังจะมีว่าที่ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพลังประชารัฐ ที่อยู่ในชื่ออันดับต้นๆ และได้เป็นส.ส.ชัวร์อยู่ในก๊วนนี้ด้วย เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ มือทำนโยบายของพรรค -สันติ กีระนันท์อดีตรองผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯ –วิเชียร ชวลิต อดีตปลัดมหาดไทย คนเหล่านี้ก็มีลุ้นเป็นรัฐมนตรีด้วย
ถัดมาเป็น กลุ่มกรุงเทพหรือกลุ่มกทม. ที่มีสองแกนนำเป็นหัวหอกหลักคือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์หนึ่ง นายทุนใหญ่พลังประชารัฐ ที่มีเครือข่ายธุรกิจของตัวเองและภรรยาหลายพันล้านบาท กับ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์3สองอดีตแกนนำกปปส.ที่กอดคอ ออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน
รอบนี้เชื่อว่าสองคนนี้มีโอกาสสูงได้คั่วเก้าอี้รัฐมนตรี คืออาจได้เป็นทั้งสองคนเลย เป็นเพราะพลังประชารัฐได้ส.ส.กทม.มา 12 คน กลายมาเป็นแชมป์กทม. เหนือประชาธิปัตย์ เพื่อไทย แบบหลายฝ่ายคาดไม่ถึง
ส่วนหลายเขตที่แพ้ ก็ได้คะแนนมาระดับ 15000-20000 คะแนนเป็นอย่างต่ำ โกยคะแนนให้พรรคได้มากพอสมควร
แต่ผลงานดังกล่าว จะเคลมว่าเป็นผลงานของณัฏฐพลกับพุทธิพงษ์ คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะที่พลังประชารัฐได้แชมป์กทม. เพราะกระแสกลัวทักษิณและไม่เอาประชาธิปัตย์ก็มีส่วนช่วย จึงหันมาใช้บริการลุงตู่ แต่สองคนนี้น่าจะไม่พลาดตำแหน่งการเมืองที่สำคัญแน่
พรุ่งนี้มาว่ากันต่อสำหรับกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นป้อมค่ายภายในพรรค อันจะนำไปสู่การเปิดศึกสายเลือด
ข่าวลึกปมลับ จะกลับมาพบกับท่านผู้ชมอีกครั้ง ทางช่อง นิวส์1 วันนี้ผม นพรัฐ พรวนสุข และทีมงานขอลาไปก่อน สวัสดีครับ