xs
xsm
sm
md
lg

สถิติคดีจราจรขึ้นสู่ศาลช่วง 7 วันสงกรานต์พุ่งสูงกว่า 3 หมื่นข้อหา ทั้งเมาแล้วขับ และไม่มีใบขับขี่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - ศาลสรุปสถิติคดีจราจร 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบคดีกระทำผิดเพิ่มมากกว่าปี 2561 จาก 22,381 ข้อหา เป็น 30,397 ข้อหา โดยเฉพาะขับรถขณะเมา ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็เพิ่มมากขึ้น โคราชครองแชมป์คดีสูงสุด ตามมาด้วยเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ

วันนี้ (18 เม.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยปริมาณคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร จำนวนทั้งสิ้น 232 ศาล ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ ปี 2562 (ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2562) ที่ผ่านมา ซึ่งรวบรวมข้อมูลสถิติโดยศูนย์ข้อมูลคดี สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม พบว่า

1. จำนวนคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ของศาลชั้นต้น ทั่วราชอาณาจักร (ในช่วง 7 วันอันตราย) ที่เข้าสู่การพิจารณา รวมทั้งสิ้น 27,828 คดี (30,397 ข้อหา) จำนวนคดีที่พิจารณาพิพากษาแล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น 27,055 คดี (คิดเป็นร้อยละ 97.22) คดีในส่วนที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จเนื่องจากศาลสั่งให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สืบเสาะและพินิจจำเลยถึงพฤติการณ์ในการกระทำความผิด รวมถึงประวัติของจำเลย เพื่อประกอบดุลพินิจในการกำหนดโทษ จึงต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน

2.จังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 1,558 คดี, จังหวัดเชียงใหม่ 1,457 คดี, กรุงเทพมหานคร 1,286 คดี, จังหวัดชลบุรี 1,128 คดี, จังหวัดร้อยเอ็ด 974 คดี

3. ศาลที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ศาลแขวงเชียงใหม่ จำนวน 1,269 คดี, ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 974 คดี, ศาลแขวงนครราชสีมา จำนวน 783 คดี, ศาลแขวงอุดรธานี จำนวน 734 คดี, ศาลแขวงอุบลราชธานี จำนวน 705 คดี

4. ข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 26,875 ข้อหา, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 3,021 ข้อหา, ขับรถขณะเสพยาเสพติด จำนวน 439 ข้อหา

5. จำนวนจำเลยที่ขึ้นสู่การพิจารณาพิพากษา รวมทั้งสิ้น 29,845 คน แบ่งเป็น จำเลยที่มีสัญชาติไทย 28,139 คน และสัญชาติอื่น 1,706 คน

หากเปรียบเทียบกับสถิติในช่วงสงกรานต์ ปี 2561 ปีนี้ถือว่ามีปริมาณคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมเพิ่มขึ้นจาก 22,381 ข้อหา เป็น 30,397 ข้อหา ซึ่งมากกว่าสถิติคดีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในช่วงเวลาปกติถึงกว่าเท่าตัว ตัวอย่างเช่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตลอดทั้งเดือน มีการฟ้องคดี พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ทั้งสิ้นจำนวน 11,439 ข้อหา แต่ข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุดยังคงเป็น ขับรถขณะเมาสุราเช่นเดิม โดยในปี 2561 มีการฟ้องเข้ามาจำนวน 21,139 ข้อหา ปีนี้ฟ้องเข้ามา 26,875 ข้อหา จึงมีสถิติที่เพิ่มขึ้นถึง 5,736 ข้อหา

อีกข้อหาที่มีสถิติที่เพิ่มสูงขึ้นมาคือ ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีสถิติ 450 ข้อหา ปีนี้ฟ้องเข้ามาถึง 3,021 ข้อหา จึงมีสถิติที่มากขึ้นถึง 2,571 ข้อหา ส่วนขับรถขณะเสพยาเสพติดยังคงมีสถิติที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ตัวเลขสถิติที่สำนักงานศาลยุติธรรมรายงานให้ทราบมาตลอดช่วง 7 วันอันตรายปีนี้นอกจากจะใช้เพื่อการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานของสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ศาลยุติธรรมทั่วราชอาณาจักรแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เพื่อการวิเคราะห์หาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบต่อไป

จากสถิติอาจแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการละเลยไม่เคารพกฎหมายของผู้กระทำผิดที่มีจำนวนมากเช่นกัน จึงขอฝากพี่น้องประชาชนว่า การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเคารพกฎหมาย ในส่วนของศาลยุติธรรมนั้น ทุกคดีที่ถูกฟ้องเข้ามาศาลจะบังคับใช้กฎหมายโดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงในแต่ละการกระทำผิดเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของสังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น