MGR online -สภาวิศวกรฯ สรุปเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี2 ทำระบบเครื่องสูบน้ำ เกิดจากตะกอนการบำบัดน้ำเสีย ทำให้ความร้อนสูงถึง 800 องศา ภาพรวมโครงสร้างยังมั่นคงแข็งแรงดี
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ชั้น8 ส่วนเชื่อมติดกับโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ซึ่งเป็นอาคารสูง 21 ชั้น เจ้าหน้าที่ระดมดับเพลิง มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และพบผู้เสียชีวิต2ราย คือนายศักดิ์ชัย เจริญลาภและนายอาทิตย์ คำสาย เป็นพนักงานของห้าง ซึ่งทั้งสองกระโดดออกจากตัวอาคารดังกล่าว ทั้งนี้ต้นเพลิงเป็นห้องเก็บเอกสารชั้น8 โซนศูนย์การค้า ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่10เม.ย. ท้องที่สน.ปทุมวันตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 09.00 น. ที่หน้าอาคารดิออฟฟิศ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าทางเจ้าหน้าที่ของห้างได้ตั้งโต๊ะตั้งกองอำนวยการอยู่ข้างตึกเกิดเหตุ โดยที่หน้าทางเข้ามีการตั้งแผงเหล็กไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออกเด็ดขาด และมีการติดเอกสารว่า ทางอาคารดิออฟฟิศ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 เม.ย. เวลา 12.00 น. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ ทำให้มีพนักงานของห้างนั่งรออยู่ข้างนอกตัวอาคารกันเป็นจำนวนมาก สำหรับอาคารจุดเกิดเหตุตรงชั้น 8 นั้น ยังมีคราบเขม่าควันติดอยู่ตรงหน้าต่างจุดผู้เสียชีวิตตกลงมา
ต่อมาเวลา12.00น. ที่หน้าอาคารจุดเกิดเหตุ ทาง ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ รองผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และรศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษาวสท.และนายพินิต อารยะศิลปะธร ผอ.เขตปทุมวัน นายนพดล ฉายปัญญา ผอ.สำนักการโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตามพฤติกรรมของไฟ เมื่อจุดติดไหม้แล้วจะลอยสู่ด้านบน จุดต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น บี2 เป็นห้องปิดทึบมีอุปกรณ์เป็นระบบเครื่องสูบน้ำ มีบ่อบำบัดน้ำเสียซึ่งบ่อน้ำดังกล่าวมีเป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกไหม้ในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลานานและยังมีอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าหลายตัว ดังนั้นเมื่อไฟไหม้ความร้อนและควันลอยขึ้นสูงไปตามท่อขนาดใหญ่ที่ใช้ระบายอากาศพุ่งขึ้นไปด้านบนเพื่อระบายควันออกนอกตัวอาคาร แต่เมื่อควันลอยไปชั้น8 ได้ชนกับฉนวนกันความร้อน ควันและความร้อนที่สะสมได้แผ่ออกด้านข้างทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเกิดประกายไฟขึ้นที่ชั้น8 ซึ่งจุดดังกล่าวมีท่อเชื่อมเพื่อระบายไปยังนอกตัวอาคาร แต่ด้วยความร้อนที่สะสม ท่อดังกล่าวไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันความร้อนจึงเกิดพังหักลงมา ทำให้ควันและความร้อนกระจายคลุ้งทั่วชั้น8 ซึ่งมีวัสดุติดไฟง่ายเช่นเก้าอี้ โต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จึงเกิดแสงเพลิงในชั้นดังกล่าว เมื่อควันอยู่ที่ชั้น8 ไม่ถูกระบายไปนอกตัวอาคารควันจึงกระจายกดตัวต่ำลงไปตามชั้น7ไล่ลงไป
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่าไฟไหม้ชั้น8 เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบต้นเพลิง แต่ว่าควันเยอะช่วงชั้น7-8 แต่ชั้นอื่นไม่เยอะ จึงตรวจสอบลงไปทีละชั้นโดยใช้กล้องตรวจจับความร้อนหรือกล้องเทอร์มอล จึงพบว่าต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี2 เป็นชั้นใต้ดินของอาคาร โดยเพลิงได้ลุกไหม้ในห้องสูบน้ำและบำบัดน้ำเสีย ลุกไหม้ไปประมาณ70%แล้ว ในเนื้อที่ห้องดังกล่าว 80 ตารางเมตร จึงทำการฉีดโฟมอัดเข้าไปในห้องเพื่อตัดอากาศทำให้เพลิงมอดไปในที่สุด
"เชื่อว่าต้นเพลิงส่วนหนึ่งมาจากตะกอนที่เกิดจากการบำบัดน้ำเสีย โดยมีความร้อนสูงถึง 800 องศาเซลเซียส จากนั้นได้มีกลุ่มควันพร้อมแก๊สได้เข้าไปยังท่อระบาย หรือที่เรียกว่าเรเซหลอด ซึ่งท่อดังกล่าวมีขนาดใหญ่มากและเมื่อกลุ่มควันเข้าไปเป็นจำนวนมากและมีความร้อนมากทำให้ท่อบริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็นท่อที่มีลักษณะโค้งที่เชื่อมระบายไปยังข้างนอกอาคารเกิดปัญหาขึ้น นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าบริเวณคอท่อชั้นบี2 ซึ่งเป็นจุดต้นเหตุมีรอยฉีกขาดเนื่องจากโดนความร้อนสูงมาก" นายธีรยุทธ กล่าว
ศ.ดร.อมร กล่าวว่า เบื้องต้นโครงสร้างอาคารแข็งแรงดี แต่ต้องดูเรื่องระบบทั้งท่อต่างๆ รวมทั้งเชื้อเพลิงภายในอาคารและระบบป้องกันอัคคีภัย อาคารนี้มีความสูงเกิน23เมตร วิศวกรรมควบคุมจะต้องเชิญวิศวกรผู้ออกแบบอาคารมาสอบสวนว่า การออกแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของสภาวิศวกรจะตรวจสอบท่อว่าสามารถทนความร้อนได้กี่องศา และตรวจสอบจุดแตกหักว่ามีรอยรั่วอยู่แล้วหรือว่าเป็นการอัดอั้นของกลุ่มควันกับความร้อน เนื่องจากอาจมีคราบน้ำมันจากการทำอาหารทำให้ท่ออุดตันจนทำให้ควันไม่ระบายออกไปข้างนอกตัวอาคาร นอกจากนี้ได้ตรวจสอบพื้นที่จุดที่มีคนตกลงมา พบว่าหน้าต่างสูงจากพื้น1.50เมตร มีร่องรอยทุบกระจกเพื่อพยายามหนีออกไปข้างนอก ต้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการระเบิดของท่อทำให้ไฟขวางประตูทางหนีไฟ ทำให้หนีไม่ได้หรือผู้เสียชีวิตมีลักษณะตกใจ ต้องรอผลสรุปลำดับเหตุการณ์จากทางเซ็นทรัลที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
นายพิชญะ กล่าวว่า สำหรับระบบป้องกันไฟไหม้ของตัวอาคารนั้น ใช้ 2 ระบบควบคู่กันไปคือระบบอัตโนมัติและระบบคนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี2นั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าสปริงเกอร์ในห้องทำงานหรือไม่ เพราะถูกเพลิงไหม้เสียหายไปหมดแล้ว แต่จากแบบแปลนเข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยห้างเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารนั้น ก็มีกฎหมายควบคุมอย่างถูกต้อง แต่ตัวอาคารเก่านั้นอาจไม่ทันกับกฎหมายควบคุมอาคารใหม่ที่ออกมา ซึ่งกฎหมายก็แนะนำเรื่องการป้องกันอาคารเก่าแต่ไม่มีบทลงโทษ
นายพิชญะ กล่าวต่อว่า ในกรณีนี้ท่อจากชั้นบี2 พาควันและความร้อนขึ้นไปด้านบนตามปกติ แล้วจะมีท่อต่อระบายอากาศความยาวอีก60เซนติเมตร เพื่อระบายออกไปนอกอาคาร แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อทำให้ช่วงข้อต่อท่อระบายอากาศพังจนไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนเกิดเปลวไฟชั้น8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมระหว่างชั้นบี2สู่ชั้น8นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น8ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะว่าอาคารเก่าถูกออกแบบมาในลักษณะดังกล่าวจึงมีจุดอ่อน ก่อนทำการเชื่อมท่อปล่อยออกด้านบนของอาคารในภายหลัง
นายพิชญะ กล่าวต่อว่า ปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้นห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ 10 เมตร และปล่องนั้นห่างจากประตูเพียง3-4เมตรเท่านั้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้ จึงหนีออกมาไม่ทัน แต่สามารถช่วยเหลือคนอื่นออกมาได้ถือว่าทำได้ดีเป็นฮีโร่ เพราะจากโครงสร้างนั้นชั้น8มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก จึงต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน
นายพินิตกล่าวว่า ตอนนี้ทางเขตได้ปิดกั้นอาคารบริเวณชั้นบี2 เนื้อที่ 80ตารางเมตร และชั้น 8 ในเนื้อที่ 400 ตารางเมตร โดยห้ามใช้จุดดังกล่าว ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของห้างนั้นสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุนั้นไม่มีโอกาสเกิดเพลิงไหม้ซ้ำได้อีกแล้ว สำหรับชั้น 8 นั้น เป็นห้องพักผ่อนของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ห้องเก็บเอกสารตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
นายนพดลกล่าวว่า พื้นที่ซึ่งถูกสั่งห้ามใช้ จะใช้ได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารส่งแบบแปลนที่แก้ไขเรียบร้อยส่งไปยังสำนักการโยธา โดยแบบแปลนนี้จะต้องได้รับการยอมรับจากสถาบันที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐาน ซึ่งทางโยธาฯจะนำแบบแปลนมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าจะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้หรือไม่ต่อไป
รศ.สิริวัฒน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างพบว่าอาคารมั่นคงแข็งแรงดี เพลิงไม่ได้กระทบโครงสร้างโดยตรง อีกทั้งเพลิงไหม้กินระยะเวลาสั้น ๆ จึงมีเพียงคราบเขม่าควัน สามารถเปิดใช้งานตัวอาคารที่ไม่ได้รับความเสียหายได้ตามปกติ
