xs
xsm
sm
md
lg

รองผบ.ตร.ยันเดินหน้าลุย ศปอส.ตร.ต่อ ซึ่งถือเป็นศูนย์พิเศษ แม้ "บิ๊กโจ๊ก"จะถูกโอนเป็นขรก.พลเรือนแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online -ผอ.ศปอส.ยันเดินหน้าศูนย์พิเศษ มีอำนาจหน้าที่ปราบปราม 13 ด้านต่อ แม้ "บิ๊กโจ๊ก"อดีตรองผอ.ศูนย์ จะถูกโอนเป็นขรก.พลเรือนแล้ว ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญและเข้าไปเกี่ยวข้องคดีมากมาย

วันนี้( 10 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า แม้ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์หักพาล อดีตผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศปอส.ตร.จะถูกโอนย้ายเป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรีศปอส.ตร.ยังคงมีเหมือนเดิม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดนหลอกลวง ซึ่งยังคงเดินทางมาร้องเรียนต่อเนื่อง สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารและเจ้าหน้าที่ในศูนย์นั้น เร็วๆนี้ จะมีความชัดเจน แต่ยังคงใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานอยู่แล้ว โดยจะให้ไปช่วยท้องที่ในคดีที่ซับซ้อนยุ่งยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ศปอส.ตร.ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ด้านหลังอาคาร 1 ตร. ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ยังคงมีประชาชนที่เดือดร้อนเดินทางมาร้องเรียน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ แจ้งว่าทางศูนย์ ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งใดเพิ่มเติม ยังคงมีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนตามปกติ

สำหรับ ศปอส.ตร.เป็นศูนย์พิเศษที่ตั้งขึ้นในช่วงที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แม้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะมีตำแหน่งรองผอ.ศูนย์ แต่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน โดยศูนย์นี้ มีอำนาจหน้าที่ปราบปราม 13 ด้าน ได้แก่ 1.การกู้ยืมเงินโดยไม่เป็นธรรม 2.ชาวต่างชาติทำผิดกฎหมาย หรืออยู่เกินกำหนดอนุญาต 3.การพนัน4.ยาเสพติด/อาวุธปืน 5.ทรัพย์สินทางปัญญา 6.เจ้าหน้าที่รัฐถูกร้องเรียน 7.พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ8.สถานบริการ9.แข่งรถในทางสาธารณะ10.เร่งรัดกฎหมายจับ/ติดตามการดำเนินคดี 11.รถเถื่อน ป้ายปลอม 12.การท่องเที่ยวและ13.อื่นๆ (อาชญากรรมทั่วไป) ทำให้ช่วงที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกคดีสำคัญในประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น