MGR Online - กองปราบปรามจับหนุ่มซาดิสต์ ข่มขืน-ขังแฟนสาว 3 วัน 3 คืน ถ่ายคลิปขู่ประจานผ่านโซเชียลมีเดีย
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.พ.ต.ท.ศิลปชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายพงษ์ศักดิ์ ชุมทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/6 ม.2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.505/2561 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2561 และตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 469/2561 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, หน่วงเหนี่ยวกักขังและลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ได้ที่หน้าร้านเหรียญทองการยาง ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2561 นายพงษ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาได้แชทแอปพลิเคชันบีทอล์กกับ น.ส.เกศมณี สังข์ทอง และได้พูดคุยจนตกลงคบหาดูใจกันเรื่อยมา จากนั้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2561 นายพงษ์ศักดิ์จับได้ว่า น.ส.เกศมณีแอบคุยโทรศัพท์กับอดีตแฟน จึงตามมาหาที่บ้านเลขที่ 63/269 หมู่ 7 ซ.เกตุสุวรรณ ต.รัษฎา อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต กระทั่งมีปากเสียงลงไม้ลงมือตบตีและชกเบ้าตาทั้งสองข้างของ น.ส.เกศมณี จนฟกช้ำ ก่อนโทรศัพท์ไปข่มขู่แฟนเก่าของ น.ส.เกศมณี ว่าไม่ให้โทร.มาหาอีก
ต่อมาผู้ต้องหาได้ทำร้าย น.ส.เกศมณีอีกครั้ง พร้อมทั้งลงมือข่มขืนและถ่ายคลิปไว้ โดยข่มขู่ว่าจะเอาไปประจานลงโซเชียลมีเดีย ระหว่างนั้น น.ส.เกศมณีได้พยายามขัดขืนแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้ต้องหาได้นอนเฝ้าไว้ไม่ให้ออกไปไหน เมื่อมีโทรศัพท์เข้ามาก็จะให้เปิดลำโพงเวลารับสาย นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้ข่มขู่ผู้เสียหายด้วยว่าหากไม่เชื่อฟังจะวางยาฆ่ามารดาให้ตายด้วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวไม่กล้าหลบหนี หลังจากนั้นทางมารดาและน้องสาวของผู้เสียหายทราบเรื่องจึงเข้าไปช่วยออกมาได้หลังถูกขังอยู่ในบ้านเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
นอกจากนี้ ทราบภายหลังว่านายพงษ์ศักดิ์ได้ขโมยโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินจำนวน 3,000 บาทของผู้เสียหายไปด้วย จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ต่อมานายพงษ์ศักดิ์ได้กลับมาขอคืนดีกับ น.ส.เกศมณีอีกครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2561 ขณะที่ น.ส.เกศมณีไปหาน้องชายที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาได้นัดเจอและได้ลงมือทำร้ายร่างกายและข่มขืนผู้เสียหายอีก จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.คอหงส์ จ.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมายอีก โดยศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ทั้ง 2 คดี
จากการสอบสวนนายพงษ์ศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป