MGR online - “พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ” ผกก.3 บก.ส.3 นรต.51 ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ ตำแหน่ง “ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม” หรือคอร์ทมาร์แชลเพียงรายเดียว
กรณีสำนักงานศาลยุติธรรมเปิดรับสมัคร “ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรม” หรือหน่วย “คอร์ทมาร์แชล” เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกิดขึ้นใหม่ ตามร่างพระราชบัญญัติ เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ....ที่ผ่าน สนช. เมื่อ 8 ก.พ. 2562 และกำลังจะมีผลบังคับใช้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ “สำนักการเจ้าหน้าที่” ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาครั้งสุดท้ายเพื่อสอบสัมภาษณ์ เพียงรายชื่อเดียว คือ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผกก.3 บก.ส.3 บช.ส. เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นผู้อำนวยการมาไม่น้อยกว่า 3 ปี จึงเรียกมาสอบปากเปล่าในวันนี้ 14.00 น.
วันนี้( 29 มี.ค.) ที่สำนักศาลยุติธรรม นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานสรรหาบุคคลผู้รับโอนมารับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า จากการเปิดรับสมัครและรับโอนข้าราชการเพื่อดำรงตำแหน่งผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย มีผู้เข้ารอบพิจารณา 14 คน และคัดกรองจนเหลือ 1 คน ที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์แนวคิดทัศนคติ คือ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ส่วนคนอื่นไม่ผ่านคุณสมบัติ เพราะเป็นผู้อำนวยการระดับต้น หรือพันตำรวจเอกมาไม่ถึง 3 ปี เป็นต้น ส่วน พ.ต.อ.สุรพงศ์ ได้เข้าสอบสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเสนอเลขาธิการศาลยุติธรรม และจะประกาศผลสอบในเว็บไซด์ศาลยุติธรรมต่อไป
มีรายงานว่า พ.ต.อ.สุรพงศ์ ได้เดินทางมาสำนักงานศาลยุติธรรม เวลา 14.00 น. และเข้าทดสอบทัศนคติ มีนายปุณณพัฒน์ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา แล้ว ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือกผู้ร่วมปฎิบัติงาน ที่กำลังจะเข้ามาเป็นกำลังในการปฏิบัติงาน ซึ่งมีที่มาแตกต่างสังกัดกัน ว่าจะมีการคัดคนอย่างไร, งานของตำรวจศาล แตกต่างกับงานเจ้าพนักงานตำรวจตาม ป.วิอาญาอย่างไร รวมทั้งคำถามเกี่ยวกับยุทธวิธี เป็นต้น
พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าวหลังสอบสัมภาษณ์เพียงคนเดียวว่า ตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้ จนกว่าจะประกาศชื่อผู้ผ่านการสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติการศึกษาของ พ.ต.อ.สุรพงศ์ จบการศึกษา ร.ร.นายร้อยตำรวจ รุ่น 51 พ.ศ. 2540 และเป็นหัวหน้า นรต. 51 ด้วย, ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2547, ปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม ม.มหิดล พ.ศ. 2544, เนติบัณฑิต สมัยที่ 62 พ.ศ. 2552
ประวัติการรับราชการ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ 2 ปี (ต.ค. 2542-มี.ค. 2544), รอง ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร 3 ปี (ก.พ.2554-ก.พ.2557), ผกก.ฝ่ายธุรการและกำลังพล สำนักงานจเรตำรวจ 1 ปี (ก.พ. 2558-พ.ค. 2559), ผกก.กลุ่มงานส่งเสริมและประสานงานวิจัย กองวิจัย 2 ปี (พ.ค. 2559-มี.ค. 2561), ผกก.3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล3 1 ปี (มี.ค. 2561-ปัจจุบัน)
ประวัติการฝึกอบรม หลักสูตรกระโดดร่ม ชั้น 3 บช.ตชด. 1 เดือน (ก.พ.-10 มี.ค. 2538) ,หลักสูตรต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบ บช.ตชด. 1 เดือน (5ก.พ.-5 มี.ค. 2539), หลักสูตรวิทยากรการสอบสวนคดีอาญา สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน 1 เดือน (ธ.ค. 2543), หลักสูตรสารวัตร รุ่น 76 สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ 3 เดือน (พ.ย. 2546-ม.ค. 2547), และหลักสูตรผู้กำกับการ รุ่น 85 ร.ร.นายร้อยตำรวจ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 2555)
ประสบการณ์ในงานตามตำแหน่งที่ขอโอน ตั้งแต่ ก.พ. 2554-ก.พ. 2557 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร ปฏิบัติงานเกี่ยวกับถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ งานสืบสวนติดตามจับกุมหู้กระทำผิดตามคดีอาญาอาชญากรรมสำคัญ และงานปฏิบัติการพิเศษ ในเขตอำนาจรับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร, ตั้งแต่ 15 มี.ค. 2561-ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งผกก.3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ผู้อำนวยการระดับต้น (พ.ต.อ.) โดยปฏิบัติงานเกี่ยวกับรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาตื ตลอดจนรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการและบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงต่างๆ ตามที่ร้องขอหรือตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการคัดเลือกผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อนำมาวางระบบการทำงาน ตามกรอบระยะแรกของศูนย์รักษาความปลอดภัยสำนักงานศาลยุติธรรมเสร็จสิ้นแล้วนั้น เมื่อร่าง พ.ร.บ. ร่างพระราชบัญญัติ เจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ....ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทางสำนักงานศาลยุติธรรม จึงจะเริ่มรับสมัคร “เจ้าพนักงานตำรวจศาล” เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หลบหนีหมายจับของศาล ซึ่งกรอบระยะแรก จะรับโอนผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานมาจากทหาร, ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, พลเรือน จำนวน 40 อัตรา แบ่งเป็นระดับปฏิบัติการชำนาญการ 24 อัตรา, ระดับชำนาญการพิเศษ 6 อัตรา และเจ้าหน้าที่ทั่วไป 10 อัตรา โดย คุณสมบัติเป็นชาย หรือหญิง มีประสบการณ์ความรู้และปฏิบัติงานด้านสืบสวน 3-5 ปี ทั้งนี้ ระยะแรกทั้ง 40 อัตราจะต้องปฏิบัติงานอยู่ที่สำนักงานศาลยุติธรรม แต่ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าไว้ทั้งหมด 309 อัตรา เพื่อส่งไปประจำศาลต่างๆ ทั่วประเทศ