xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : เปิดดีลลับ "กองทัพงูเห่า"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 27 มีนาคม 2562 ตอน เปิดดีลลับ "กองทัพงูเห่า"



การเดินเกมในสถานการณ์ช่วงชิงรวมพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ของแกนนำสองขั้ว คือฝ่ายเพื่อไทย และฝ่ายพลังประชารัฐ ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีตั๋วรอจะกลับไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกรอบ ต้องบอกว่า สองฝ่ายเดินหมาก จัดฉากชนกันอย่างดุเดือด จนฝุ่นตลบในเวลานี้

จนกว่าใครเป็นฝ่ายรวบรวมเสียงได้ก่อน และกอดคอกันไปจนถึงวันประชุมรัฐสภาได้ ก็จะเป็นผู้ชนะ ถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเปิดโต๊ะเจรจาต่อรองกันไปก่อน กว่าจะเกลี่ยผลประโยชน์ลงตัว สามารถตกลงกันได้เป็นมั่นเป็นเหมาะ คงต้องจูงมือกันเข้าเซฟเฮาส์อีกหลายรอบ

ขณะนี้ ที่เปิดหน้าออกมา อาจจะเรียกว่าเป็น “รัฐบาลลม”เท่านั้น ยังเปลี่ยนแปลงได้อีกมากมายหลายตลบ พรรคที่ว่าใช่ไม่ไปไหนแน่ในวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่ใช่ ต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ น่าจะได้เห็น “กองทัพงูเห่า”ในตอนจบในวันเปิดสภาเลือกประธานรัฐสภา

เช้าวันนี้ (27 มี.ค. )ขั้วเพื่อไทย ซึ่งมีกองกำลังหนุนที่แข็งแกร่งอย่างพรรคอนาคตใหม่ ,ประชาชาติ,เสรีรวมไทย ,เพื่อชาติ พลังปวงชนไทย รวม7 พรรค มานั่งแถลงข่าวร่วมกัน อ้างเสียงตั้งรัฐบาลเกิน 251 แล้ว แต่ตัวบวกที่ทำให้เสียงเกินครึ่งคือพรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ได้มา ก็เลยมั่นใจยังไม่ได้ว่าเพื่อไทยรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์

แม้ ฝ่ายเพื่อไทย ชิงออกตัว ทิ้งไพ่ โชว์การจับมือ รวมเสียง ตั้งรัฐบาล ข่มขวัญพลังประชารัฐ ไปก่อนแต่เนิ่นๆ แต่ดูเหมือน ฝ่ายพลังประชารัฐ ที่มีไพ่อีกหลายใบในมือให้ได้ลุ้น เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

ยังมั่นใจลึกๆ ว่า ด้วยกลไกอีกหลายอย่าง ตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ยังทำให้ตัวเองพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ทั้งเรื่องเสียง ส.ว.ในหน้าตัก 250 เสียง ที่น่าจะโหวตเห็นชอบ พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตลอดจน ความเชื่อว่า ลึกๆ ผลการเลือกตั้ง จากคะแนนบัตรเลือกตั้ง ที่ยังไม่ได้ประกาศอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ยังอาจมีโอกาสพลิกสถานการณ์เป็นบวกให้ฝ่ายตัวเอง มีขึ้นไปไล่เบียดกับเพื่อไทย

คะแนนที่ว่านี้ เป็น 5 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวน 35 ล้านคนที่ออกมาใช้สิทธิ์เมื่อ 24 มีนาคม หรือประมาณร่วมๆ 1.7 ล้านใบ ที่ยังไม่มีการประกาศว่า พรรคการเมืองใด ได้เสียงจากส่วนนี้ไปมากที่สุด

โดย ฝ่ายพลังประชารัฐ ก็ดูจะยังมั่นใจมากว่า ตัวเลขดังกล่าว น่าจะเป็นบวก ให้กับพลังประชารัฐและพรรคพันธมิตรฝ่ายตัวเอง ทำให้ได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นมา จนพอตั้งรัฐบาลได้แบบไม่ต้องไปง้อพรรคขนาดกลาง-เล็ก มาก

และยังมีกลไกอื่นๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญอีก เช่น การแจกใบเหลืองใบแดง ใบส้มของ กกต. ที่อาจส่งผลให้ ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่ อันจะมีผลต่อจำนวน ส.ส.เขตของแต่ละพรรค

และที่สำคัญ คะแนนของผู้สมัครแต่ละพรรค ที่ได้รับผลกระทบจากใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ก็จะมีผลต่อการคิดคำนวณ จำนวน ส.ส.ที่พึงได้ของแต่ละพรรคการเมืองใหม่ตามมาด้วย

ซึ่งหากออกมาแบบนี้ หลายเขตเลือกตั้ง จะมีผลต่อ การขึ้นลงของ ตัวเลข ส.ส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ ของแต่ละพรรค จนส่งผลต่อ “สมการตัวเลข”การตั้งรัฐบาลของทั้งขั้วเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ตามมาทันที

แต่ระหว่างนี้ ที่กำลังรอให้ กกต.พิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง การนับคะแนนอย่างเป็นทางการทั้งหมดออกมา อย่างไรก็ตามขั้วเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ก็ต้องเร่งปิดดีล จัดตั้งรัฐบาล ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

แต่สุดท้าย หากเสียงแต่ละฝ่าย ชนะกันไม่ขาด โดยเฉพาะ ฝ่ายพลังประชารัฐ ที่ถ้าจบทุกเงื่อนไขหมดแล้ว ยังรวมเสียง ส.ส.ในฝ่ายตัวเอง ไปไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 250 เสียง หรือเกินแต่ไม่มาก เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เสี่ยงต่อการเป็นรัฐบาลอายุสั้น

ปฏิบัติการดีลลับ ยุทธการล่องูเห่าออกจากพรรค จะถูกงัดออกมาใช้แน่ ในช่วงใกล้โหวตเลือกประธานสภาฯ และตอนโหวตเห็นชอบนายกฯ

ข่าวว่า มีโอกาสได้เห็น งูเห่าการเมือง จากกลุ่มแรกคือ ส.ส.กลุ่มหนึ่งที่อยู่พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งเรียกว่า “งูเห่าฝากเลี้ยง” ได้แอบทำข้อตกลงไว้ก่อนเลือกตั้งแล้วว่า หลังจากได้เป็น ส.ส.แล้ว จะฝืนมติพรรค โหวตสวนกับมติพรรคทั้งหมด ทั้งการเลือกประธานสภาฯ และตอนโหวตเลือกนายกฯ

พวกนี้ไม่กล้าเบี้ยวแน่ เพราะไม่มีอะไรจะเสีย นอกจากได้ค่าตัวสูงแล้ว หากพรรคต้นสังกัด มีมติขับออก ก็ยังสามารถย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่นได้ ไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม

นอกจากพวกงูเห่าฝากเลี้ยงแล้ว อาจมีคนของพรรคเล็กบางพรรค ที่มีจำนวน ส.ส.เขต 4-5 คน หลังจากได้เป็น ส.ส.จะไปอยู่กับฝ่ายพลังประชารัฐ เพื่อหนุนบิ๊กตู่ รวมถึง พรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมี มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และน่าจับตาดูกันให้ดี

เพราะแม้ มิ่งขวัญ จะยืนกราน ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ แต่ทว่าลูกพรรคอีกห้าเสียง ที่เป็นปาร์ตี้ลิสต์เหมือนมิ่งขวัญ ซึ่งส่วนใหญ่ชื่อจะโนเนม ก็อาจไปอีกทาง คือโหวตไปในทางเดียวกันกับพลังประชารัฐ เพราะต้องการให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ไปหนุนบิ๊กตู่

โดยอ้างว่า ท่าทีของมิ่งขวัญ ที่บอกไม่ร่วมงานกับพลังประชารัฐ เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค เรื่องช่นนี้ มีโอกาส อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ที่พูดง่ายๆ ก็คือ มิ่งขวัญ ถูกลูกพรรคเท นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น