รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 13 มีนาคม 2562 ตอน เปิดลึก ศึกชิง นายกรัฐมนตรี คนที่ 30
ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 ตอนนี้ไม่แน่แล้วว่าจะแบเบอร์ หยุดที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแต่เพียงคนเดียว เหมือนเดิมอย่างที่คิดกัน
ซึ่งก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่า หลังเลือกตั้ง24มีนาคม ด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกติกา กลไกทางอำนาจ และเงื่อนไขรอบด้าน เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่30ต้องเป็นของพลเอก ประยุทธ์ แบบแน่นอนชนิดนอนมา และไม่มีใครกล้าเสนอหน้ามาชิง
เพราะมันเป็นของที่ถูกล็อกไว้หมดแล้ว ไม่อาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ จนสามารถบอกได้ในลำนำคำกลอนว่า “น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก นายกฯเป็นของประยุทธ์”เลยทีเดียว
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาประกาศจุดยืนทางการเมืองว่า “ไม่เอา พลเอก ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว” ก็ทำให้ที่มั่นใจกันว่า ประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีล้านเปอร์เซ็นต์ ก็ชักจะเอาแน่ ไม่ได้แล้ว
อภิสิทธิ์ไม่ได้มาโยนระเบิดคนเดียว แต่เกมนี้ยังมี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาด้วย ซึ่งอนุทินบอกจะไม่สนับสนุนความไม่ชอบธรรมต่างๆกับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
การแสดงท่าทีของ อนุทิน หรือ เสี่ยหนู แม้ไม่พูดชัดๆตรงๆแบบอภิสิทธิ์ แต่ก็พุ่งเป้าไปที่พลเอก ประยุทธ์ โดยตรง เพราะจากการเดินหมากการเมืองของพลเอก ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐชัดเจนว่า
จะรวบอำนาจเดินแผนที่จะดันให้พลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล แม้จะมีเสียงส. ส. น้อยกว่าพรรคอื่นในขั้วเดียวกัน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่แคร์ และพลังประชารัฐจะไม่ยอมให้ประชาธิปัตย์แซง ซึ่งไม่เป็นไปตามกติกาและมารยาท เป็นประเด็นที่เสี่ยหนูไม่เห็นด้วย
เสี่ยหนูไม่ได้บอกว่า วิธีการใช้อำนาจและอภิสิทธิ์เช่นนี้เป็นการ “ข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า” แต่ฟังดูก็ไม่ต่างกัน และเสี่ยหนูยังได้แสดงออกถึงจุดยืนด้วยว่า การจะเอาสว. 250 คนมาจูงคน500คนที่ประชาชนเลือกมา ก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ต้องยอมรับว่า การแสดงออกของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล้าหาญอย่างยิ่งในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ที่ออกมาเบรกและแฉการเดินหมากทางการเมืองที่จะส่งพลเอก ประยุทธ์ กลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างแทบจะเรียกได้ว่า หมดความเกรงใจกันแล้วก็ว่าได้
สองคนที่มีบทบาทในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง โยนประเด็นร้อนออกมาสร้างแรงกระเพื่อมขึ้นแล้ว ย่อมเป็นผลให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมืองรอบใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่การเลือกตั้ง ไปจนจบการช่วงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีรายการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างแน่นอน
ขณะนี้ เสมือนหนึ่งว่า เก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่ถูกล้อมด้วยรั้วลวดหนามไว้รอพลเอก ประยุทธ์คนเดียว บัดนี้ได้ถูกรื้อออก เปิดโล่งให้หัวหน้าพรรคการเมืองทุกจะเข้าไปถึงได้แล้ว
ดังนั้น นับจากนี้ทุกวันของทุกพรรคการเมืองจะพลาดไม่ได้กับการที่จะต้องวางแผนให้พรรคได้ส. ส. เข้ามามากที่สุด เผื่อไว้เป็นทุนรอนใช้เป็นดุลต่อรอง ในสถานการณ์ที่ใครมีเสียงมาก พวกมากก็มีสิทธิ์พิชิตเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่30
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แม้ว่าสูตรเดิมแผนเดิมจะถูกอภิสิทธิ์กับอนุทินพังไป แต่พลเอก ประยุทธ์ก็ยังมีโอกาสมมากอยู่ เพราะมีเสียงส. ส. หนุนแค่ 126 จาก500คนก็สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะมี250 ส. ว. เป็นแฮนดิแคปอยู่ในมือ
ถึงประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย พลเอก ประยุทธ์ ยังมีพลังประชารัฐ ,ชาติไทยพัฒนา,ชาติพัฒนา,รวมพลังประชาชาติไทย ,ประชาชนปฏิรูป กับพรรคขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมดเสียงคงจะพอ126 เสียง แม้ว่าจะไม่มีภูมิใจไทย ของเสี่ยหนู ก็ตาม
พลเอก ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ในสูตรนี้ได้แต่ในนาม และอยู่ไม่นาน เพราะจะไปไม่รอดจะถูกคว่ำในสภาได้ทุกเวลา ดังนั้นก็จะต้องดึงภูมิใจไทยไปร่วมด้วย จึงจะต้านแรงเสียดทานได้
จากพลเอก ประยุทธ์ คนที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีถัดมา ก็เป็นฝั่งขั้วเพื่อไทย คือ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี รายนี้โอกาสมาได้ไม่ยากถ้าสามารถดึงเสี่ยหนูมาอยู่ด้วย สุดารัตน์กับเสี่ยหนูนั้นเป็นซือแป๋กับศิษย์ การจะจับมือกันเป็นเรื่องง่ายๆ
เพื่อไทย รวมทั้งเครือข่าย ผนวกกำลังกับภูมิใจไทยเสียงฝั่งเพื่อไทยจะเกิน251เสียงทันที ถ้ายิ่งได้ถึง 300เสียง ชูสุดารัตน์เป็นนายกฯ ก็จะยื้อและกดดันส. ว. ได้ สูตรนี้มีโอกาสเกิดขึ้นมาก
ส่วนอภิสิทธิ์ ที่อยากกลับมาแก้ตัวเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ก็มีช่องทางอยู่เหมือนกัน คือ ประชาธิปัตย์ต้องชนะเลือกตั้งได้ส. ส. เข้ามาสัก120 คนขึ้นไป จับขั้วกับเสี่ยหนู เอาชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนามาเสริม
ดึงเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ข้ามฟากมาช่วยอีกพรรค ก็จะบล็อกพลเอก ประยุทธ์ได้ หลังจากนั้นก็ไปยึดพลังประชารัฐมาเป็นฐานกำลัง สูตรนี้จะชวนตื่นเต้นน่าลุ้นมาก เพราะงูเห่าจะออกมาเพ่นพ่านมาก
สำหรับในราย เสี่ยหนู อนุทิน ดูเหมือนมีโอกาสขึ้นชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้สูสีกับทุกคน เพราะฝ่ายต้านพลเอก ประยุทธ์ทุกพรรคไม่มีใครเกลียดเสี่ยหนู ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเสี่ยหนู อย่างเจ๊สุดารัตน์ก็เห็นเป็นลูกศิษย์ ต้องส่งเสริมอยู่แล้ว
อภิสิทธิ์กับเสี่ยหนูก็เป็น “บราเธอร์ส อิน อาร์ม”หรือ เพื่อร่วมรบกันไปแล้ว ที่ออกมาสร้างวีรกรรมดับเครื่องพลเอก ประยุทธ์ หากอภิสิทธิ์เห็นว่าตัวเองไปไม่ได้ ก็หันมาหนุนเสี่ยหนู มันก็ไม่เห็น ผิดตรงไหน?!
สรุปแล้ว นายกรัฐมนตรีคนที่30 ยังฟันธงไปที่พลเอก ประยุทธ์ไม่ได้ จะตัดชื่อ สุดารัตน์- อภิสิทธิ์ -อนุทิน ออกไปก็ยังไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนอยู่ในสมรภูมิและมีวาระในใจที่ขอก้าวขึ้นบัลลังก์นายกรัฐมนตรี ทั้งสิ้น