รมว.ยุติธรรม จัดประชุมขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชา เพื่อการแพทย์และการศึกษาวิจัย

MGR online - “พล.อ.อ.ประจิน” เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์และการศึกษาวิจัยครั้งที่ 1

วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 1 ชั้น 9 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กระทรวงยุติธรรม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 40 คน

ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 332/2561 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 61 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแนะนโยบายและแผนเพื่อพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ทั้งในส่วนของแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยอย่างครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การปรับปรุงสายพันธุ์ การสกัดสารสำคัญที่ได้จากกัญชา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การนำไปใช้ประโยชน์และการควบคุม กำกับดูแลอย่างเหมาะสม

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางหรือแผนการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์กัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ 1.แนวทางการใช้ประโยชน์และแผนการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1.การประมาณการผู้ป่วยที่จะใช้กัญชาเพื่อการบำบัดรักษา การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสถานพยาบาล การกำหนดกลุ่มโรคที่จะใช้กัญชาเพื่อการบำบัดรักษา รวมทั้งแผนการผลิตและสกัดสาระสำคัญเพื่อใช้ในการบำบัดรักษา และแผนการศึกษาวิจัย 2.แผนและมาตรการในการควบคุมและกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากกัญชา และ 3.แผนการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย คาดว่าไม่เกิน 6 เดือน จะมีความชัดเจนให้กลุ่มเกษตรนำไปปลูกได้อย่างไร

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีการจัดเสวนาเรื่องกัญชานั้นทราบว่าเกิดขึ้นแล้วมาหลายครั้งตั้งแต่ปี 59 -61 ที่ผ่านมา พร้อมเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ควรนำเสนอข้อมูลเพื่อไม่ให้ประชาชนทำผิดกฎหมายด้วยเพราะกัญชามีฤทธิ์ต่อระบบประสาท รวมทั้ง หากมีการสาธิตเกิดขึ้นต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนเพื่อทำตามขอบเขตที่กำหนดไว้ แต่ถ้าไม่ได้ขออนุญาตอาจเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายได้

“นอกจากนี้ มีบางพรรคการเมืองหนึ่งสนับสนุนกัญชาเสรีนั้นเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อต้องการให้ประชาชนสนับสนุน ซึ่งยังไม่มีการทำผิดกฎหมายแต่อยากให้ กกต.ช่วยตรวจสอบ เพราะประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติและอาเซียน มีข้อตกลงร่วมกันจะไม่ทำยาเสพติดที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย และ ยาเสพติดประเภทกัญชาจะศึกษาวิจัยเพื่อทางการแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่เพื่อปรับให้สอดคล้องกัน ต้องรอรัฐบาลใหม่เป็นผู้ดำเนินการต่อไป”

ด้าน นายแพทย์ธเรศ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดต่อมาเพื่อนำกัญชาไปรักษาทางการแพทย์เกือบ 100 ราย ส่วนผู้สอบถามข้อมูลจำนวนหลัก 1,000 ราย ซึ่งต้องพิจารณาความต้องการของผู้ป่วยกับจำนวนการปลูกกัญชาต้องสอดคล้องกัน