รายงานอาชญากรรม
เส้นทางชีวิต “คุณหญิงกอแก้ว” เสมือนนางฟ้าตกสวรรค์ ย้อนอดีตสุดรุ่งในฐานะภริยาหมายเลข 1 ตำรวจไทย 3 ปีในตำแหน่งนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ผู้คนเข้าหาคฤหาสน์มีสุวรรณ 3 หัวบันไดไม่แห้ง วันนี้กลายเป็นผู้ต้องหาร่วมลูกเขยปลอมลายเซ็นถ่ายเทหุ้นตระกูล “ณรงค์เดช” 2 หมื่นล้าน
คดีศึกสายเลือดกรณี คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา (บัวทรัพย์) ภริยาพล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีต อธิบดีกรมตำรวจและนายณพ ณรงค์เดช บุตรชายคนกลางซึ่งเป็นลูกเขยของคุณหญิงฯ ถูกนายเกษม ณรงค์เดช บิดา เจ้าของอาณาจักร KPN กรู๊ปแจ้งตำรวจดำเนินคดีในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ์ และใช้เอกสารปลอมมูลค่าความเสียหายถึง 2 หมื่นล้านบาท
ข่าวว่าในวันที่ 7 มี.ค.2562 นี้ 2 ผู้ต้องหาคดีสะเทือนวงการธุรกิจและแวดวงไฮโซจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยนายณพ มาในช่วงสายส่วนคุณหญิงกอแก้ว คาดว่าจะเดินทางมาช่วงบ่าย
สำหรับคดีปลอมลายเซ็นเพื่อยักย้ายถ่ายเทหุ้นครั้งมโหฬารนี้ตัวละครที่เกี่ยวข้องล้วนอยู่ในสังคมระดับสูงเริ่มจากครอบครัว “ณรงค์เดช”สังคมทราบกันในนามเจ้าของกิจการเครือสยามกลการ โดยคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช และนายเกษม ณรงค์เดช 2 สามีภรรยา
ส่วนทายาท คือ นายกฤษณ์ ณรงค์เดช บุตรชายคนโต นายณพ ณรงค์เดช บุตรชายคนกลาง และนายกรณ์ ณรงค์เดช บุตรชายคนเล็กส่วนรูปแบบธุรกิจเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มบริษัท KPN ดำเนินงานเกี่ยวกับผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติก ดนตรี การศึกษาและอสังหาริมทรัพย์
แม้จะบริหารโดยคนรุ่นใหม่แต่นายเกษม ก็ยังเป็นประธานกิตติมศักดิ์ นับว่าเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นแนวหน้าของชนชั้นสูงนอกจากปรากฏเป็นข่าวในเชิงธุรกิจอยู่เนืองๆแล้วยังตกเป็นข่าวซุบซิบ ข่าวสังคมมีภาพลักษณ์ด้านบวกจนเป็นที่ยอมรับ
ขณะเดียวกันเมื่อกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูล “บุณยะจินดา”โดยนายณพ เข้าพิธีวิวาห์กับ น.ส.พอฤทัย บุณยะจินดา บุตรสาวคนโตของอดีตอธิบดีกรมตำรวจ คนดัง ก็ยิ่งทำให้ 2 ครอบครัวเป็นที่จับตามอง
เพราะนอกจากความเหมาะสมราวกิ่งทองใบหยกแล้วเมื่อเปรียบเทียบชื่อชั้นของตระกูลต่างฝ่ายต่างไม่ด้อยไปกว่ากันโดยฝ่ายหนึ่งมีกิจการระดับประเทศส่วนครอบครัว “บุณยะจินดา”
แม้พล.ต.อ.พจน์ จะเกษียณฯมาแล้วแต่บารมียังเป็นที่ยอมรับในหมู่ข้าราชการทั้งแวดวงทหาร ตำรวจและตุลาการจึงนับว่ามีความเหมาะสมสามารถเกื้อกูลกันได้
แต่ที่สุดแล้วความผันผวนของชีวิตครั้งสำคัญได้เดินเข้ามา คดีปลอมลายเซ็นเพื่อโอนหุ้นนี้นับเป็นความบาดหมางและความเจ็บปวดครั้งใหญ่ของทุกฝ่ายโดยฝ่ายบิดาคือนายเกษม ณรงค์เดช ในฐานะผู้เสียหายต้องแจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายแท้ๆกับ “แม่ดอง”คือคุณหญิงกอแก้ว
ซึ่งมูลค่าความเสียหายแม้จะมากมายมหาศาล แต่ก็คงไม่น้อยไปกว่าความสัมพันธุ์ทางสายเลือดที่จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
เส้นทางของคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา กลายเป็นที่รู้จักมากที่สุดเมื่อตอนที่พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา ก้าวขึ้นเป็นหมายเลข 1 ของวงการสีกากี นั่นคือตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ
ระหว่างดำรงตำแหน่ง คุณหญิงกอแก้ว ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่สามีในฐานะนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจในแต่ละวันตลอดเวลา 3 ปีจะมีข้าราชการตำรวจแวะเวียนไปยังบ้านพักซอยมีสุวรรณ 3 ย่านคลองตันอย่างไม่ขาดสาย
แม้วันนี้พล.ต.อ.พจน์ จะเสียชีวิตไปแล้วแต่ร่องรอยของความยิ่งใหญ่ในอดีตยังตกมาสู่ตำรวจรุ่นหลังนั่นคือสโมรสรตำรวจ และสนามกีฬาบุณยะจินดา ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งสร้างมาจากการจำหน่ายพระเครื่อง พระบูชาหลวงพ่อโสธรรุ่น 80 ปีกรมตำรวจปัจจุบัน และเป็นพระยอดนิยมที่นักเล่นต้องการมีไว้ในครอบครอง
นอกจากที่กล่าวมาแล้วทางด้านสังคมยังมีมูลนิธิบุณยะจินดาเพื่อข้าราชการตำรวจ มี คุณหญิงกอแก้ว เป็นประธานฯมอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดาข้าราชการตำรวจทุกปี หรือสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย ดำเนินการโดยพล.ต.ท.วรเทพ เมธาวัฒน์ อดีตนายเวรคู่ใจ ก็ยังคงเป็นอนุสรณ์ให้เห็น