จับกุมกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมแข่งรถบนถนนวิภาวดี-รังสิต พร้อมแอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ “รถหมอบทุ่งมังกรสาย 1” โพสต์ชักชวนแข่งรถในทางสาธารณะ และบิ๊กไบค์ท่อเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกำหนด 26 คัน
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 2 มี.ค. ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขา ร.1 รอ. ถ.วิภาวดี-รังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่จับกลุ่มเพื่อแข่งรถในทางสาธารณะบน ถ.วิภาวดีรังสิต และในพื้นที่ บก.น.1 กลุ่ม จยย.บิ๊กไบค์ที่มีท่อไอเสียระดับเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงแอดมินโพสต์ชักชวนแข่งรถในทางสาธารณะตามประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558
พล.ต.ต.นิธิธร เผยว่า สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเป็นจำนวนมากถึงเรื่องกลุ่มรถ จยย.ที่มักจะจับกลุ่มเพื่อแข่งรถในถนนวิภาวดีรังสิต และกลุ่ม จยย.บิ๊กไบค์ที่มีเสียงดังรบกวนผู้ใช้เส้นทางและประชาชนในยามค่ำคืนโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นจึงได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ สน.วิภาวดี และสถานีตำรวจในพื้นที่ บก.น.1 เพื่อกวาดล้างกลุ่ม จยย.ที่จะอาศัยปั๊มน้ำมันจับกลุ่มชักชวนกันซิ่งรถก่อความเดือดร้อนรำคาญในยามค่ำคืน ผลการจับกุมสามารถตรวจยึดจยย.บิ๊กไบค์ ที่มีท่อไอเสียดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนด คือ 95 เดซิเบล ได้จำนวน 26 คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน และให้เปลี่ยนกลับเป็นสภาพเดิม สามารถตรวจยึดและควบคุมตัวผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22 และ 46/2558 ตรวจยึดรถ จยย.ได้ทั้งหมด 45 คัน ควมคุมตัวผู้ขับขี่และซ้อนท้ายได้จำนวน 47 ราย เป็นผู้ใหญ่ 31 รายและเด็กและเยาวชน 16 รายซึ่งทั้งหมด จะมีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ซึ่งครั้งนี้พบว่ามีผู้ใหญ่ 1 รายมีปัสสาวะ เป็นสีม่วงจึงได้ส่งตัวไปตรวจยัง รพ.เพื่อตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดต่อไป
พล.ต.ต.นิธิธร เผยต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมแอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ “รถหมอบทุ่งมังกรสาย 1” คือ นายขวัญชัย ท้วมอรุณ อายุ 21 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในพื้นที่รอยปริมณฑล ในเพจมีผู้ติดตามกว่า 500 คนซึ่งแต่ละครั้งจะมีการรวมตัวกันมากกว่า 500 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟซบุ๊กซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.นิธิธร เผยต่อไปว่า อยากจะฝากเตือนผู้ที่ยังฝ่าฝืนรวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะ ว่า ขณะนี้ได้มีการนำเทคโนโลยี โดยใช้เทคโนโลยีจนสามารถถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอผู้ขับขี่ในลักษณะมั่วสุมรวมกลุ่มแข่งรถในทางฯได้ และมีการออกหมายเรียกไปแล้ว 40 รายซึ่งมีผู้ที่เข้ารายงานตัวแล้ว 11 รายสำหรับที่เหลือนั้นจะมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป สุดท้ายตนอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะว่าผู้ที่ฝ่าฝืนออกมารวมกลุ่มในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและใช้เทคโนโลยีสามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวแข่งรถ และจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย รวมถึงผู้ขับขี่ รถ จยย.บิ๊กไบค์ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน จึงอยากรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุม หรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ
