MGR Online - ลูกชายร้องกองปราบปราม ตามคดีพ่อถูกรถบรรทุกแก๊สเฉี่ยวชนแล้วถูกรถเก๋งที่ตามมาทับจนเสียชีวิต ผ่านมากว่า 9 เดือนคดีไม่คืบ ติดต่อพนักงานสอบสวน สภ. เมืองราชบุรี เจ้าของคดีก็ติดต่อไม่ได้
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. น.ส สุทาดา หมื่นอร่าม อายุ 50 ปี ชาว จ.ราชบุรี พร้อมด้วย นายอัครวัฒน์ หรือต๊ะ หมื่นอร่าม อายุ 17 ปี พี่สาวและบุตรชายของนายประกอบ หมื่นอร่าม อายุ 39 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกแก๊สของบริษัทแห่งหนึ่งชนจนเสียชีวิตเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองราชบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ละม่อม สว.สอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังเวลาล่วงเลยมากว่า 9 เดือน แต่คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้า โดยนำหลักฐานต่างๆ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุและบังโคลนรถคู่กรณีที่ตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงกระจกกันลมหน้ารถของผู้เสียชีวิตที่ตกในที่เกิดเหตุมามอบไว้ให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณา
น.ส.สุทาดากล่าวว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 2561 นายประกอบได้ขี่จักรยานยนต์โดยมีเพื่อนชายอีก 1 คนนั่งซ้อนท้ายมาบนเส้นทางถนนเพชรเกษม เมื่อมาจนถึงบริเวณหน้าร้านข้าวแกงทิพย์มนต์ทรา พื้นที่ ต.สามเรือน อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี ได้ถูกรถบรรทุกแก๊สของบริษัทแห่งหนึ่งเฉี่ยวชนจนร่างของนายประกอบกระเด็นไปนอนสลบแน่นิ่งอยู่กลางถนน ก่อนที่จะถูกรถเก๋งที่ขับตามหลังมาเหยียบทับร่างจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาเคราะห์ยังดีร่างกระเด็นไปตกที่บริเวณข้างทางได้รับบาดเจ็บ
น.ส.สุทาดากล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุรถบรรทุกแก๊สของบริษัทดังกล่าวได้อาศัยช่วงจังหวะชุลมุนรีบขับรถหลบหนีไป ต่อมาทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.ราชบุรี พร้อมนำหลักฐานเป็นแผ่นป้ายของบริษัท และภาพวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงมอบไว้ให้ตำรวจเพื่อตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยโรงพักได้ส่งหนังสือติดตามเรื่องไปยังบริษัทดังกล่าวถึง 2 ฉบับ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า และเมื่อตนได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความเพื่อสอบถามเรื่องราวกลับไม่รับสายแต่อย่างใด โดยอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะครบรอบ 1 ปี
“หลังเกิดเรื่องมีเพียงเจ้าของรถเก๋งคู่กรณีอีกรายเท่านั้นที่ยอมจ่ายเงินชดเชยและเงินเยียวยาให้ทางครอบครัวของนายประกอบ จำนวน 1 แสนบาท ขณะที่คู่กรณีอีกรายคือรถบรรทุกแก๊สยังคงลอยนวลไร้การเหลียวแล และไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวมาเข้าร้องเรียนต่อทางกองปราบปราม” น.ส.สุทาดากล่าว
น.ส.สุทาดากล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ตกอยู่ที่น้องต๊ะบุตรชายคนตายเพียงคนเดียว เพราะปกติแล้วนายประกอบจะใช้ชีวิตอยู่กับน้องต๊ะ บุตรชายกันเพียงสองคน แต่เมื่อนายประกอบได้เสียชีวิตนั้นทำให้ น้องต๊ะได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะน้องต๊ะยังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นและยังเรียนหนังสืออยู่
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพร้อมตรวจสอบหลักฐานในเบื้องต้น ก่อนส่งเรื่องประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีดังกล่าวต่อไป
