MGR Online - ศาลนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกคดีก่อการ้าย ขณะที่ทนายแถลงขอเลื่อน อ้างอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง จำเลยบางส่วนลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส. ต้องใช้เวลาหาเสียง ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 4 เมษายน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก คดีก่อการร้ายหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ หรือวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธาน นปช., นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ อายุ 54 ปี ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ อายุ 44 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 68 ปี, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 61 ปี, นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 55 ปี แกนนำและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1-24 ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ กรณีกลุ่ม นปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.พ. 2553 ถึงวันที่ 20 พ.ค. 2553 เวลากลางวัน และกลางคืน ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหมดกับพวกอีกหลายคนซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งถึงแก่ความตายแล้ว ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยที่ 1 ประธานกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กับจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 11 ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่ม (นปช.) ได้ยุยง ปลุกปั่นประชาชนทั่วราชอาณาจักรไทยให้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรม โดยมีความมุ่งหมายที่จะต่อต้านรัฐบาล, จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม,จำเลยกับพวกได้สะสมกำลังพลและอาวุธสงครามร้ายแรง, จำเลยกับพวกฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ และยิงระเบิดใส่สถานที่ต่างๆ, ปิดถนนตั้งด่านสกัดตรวจค้นยานพาหนะ ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง เหตุเกิดที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมาย มาตรา 135/1, 135/2
ในวันนี้จำเลย พร้อมทนายความ และอัยการ เดินทางมาร่วมสืบพยานจำเลยนัดแรก เมื่อถึงเวลานัด ทนายความจำเลยได้แถลงร่วมกันเพื่อขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลยออกไป เนื่องจากระยะเวลาการสืบพยานจำเลยอยู่ในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำเลยบางคนต้องเดินทางไปหาเสียง และจำเลยบางคนต้องเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนพยานหลักฐานที่จะหยิบยกขึ้นมาใช้ต่อสู้คดี อยู่ระหว่างการเตรียมคำเบิกความ และจัดทำเป็นสำเนาเอกสารมาให้อัยการในวันที่ 29 มี.ค.นี้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กระบวนการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงการสืบพยานจำเลย ดังนั้นจึงอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานจำเลยได้ เพียงแต่ศาลขอความร่วมมือให้สืบพยานจำเลยให้แล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงให้ยกเลิกวันนัดเดิมทั้งหมดในเดือน ก.พ. และเดือน มี.ค. และเริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรก 4 เม.ย.เป็นต้นไป
ด้านนายปกาสิต ไตรยสุนันท์ ทนายความนายวีระกานต์ อดีตแกนนำ นปช.ก่อการร้าย จำเลยที่ 1 กล่าวว่า นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยครั้งแรก แต่เอกสารคดีนี้มีเป็นจำนวนมาก และเนื่องจากจำเลยหลายคนเป็นนักการเมืองมีภารกิจทางด้านการเมือง จึงขออนุญาตศาลว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้จำเลยไปหาเสียง ขอยกเลิกนัดทั้งหมดในเดือนนี้ และเดือน มี.ค. และไปเริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรกในเดือน เม.ย.ซึ่งมีวันนัดอยู่แล้ว ศาลก็อนุญาต อย่างไรก็ตาม พยานบุคคลที่จะนำสืบในศาลนั้นจัดเตรียมไว้เป็นจำนวนมาก แต่เวลาสืบพยานจริงคาดว่าจะเบิกความประมาณ 50 ปาก ยังมั่นใจว่าทั้งหมดถูกเกมการเมืองเล่นงาน
