xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ธนาธร เป็นนายกฯ คนไทยยิ้มไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ตอน ธนาธร เป็นนายกฯ คนไทยยิ้มไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก



ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังโดนจวกอย่างหนัก มีคนหยิบคำพูดที่เขาเคยพูดไว้ ว่า คนไทยยิ้มไม่มีเหตุผล เป็นการแสดงว่าไม่มีจุดยืน เป็นคนโง่ พอมีคนเอามารื้อฟื้นในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวางทางการเมืองเช่นนี้ เสี่ยเอก ธนาธร ก็เลยอ่วมอรทัย

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ธนาธรพูดเอง เป็นการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารชื่อดังเล่มหนึ่ง ฉบับเดือนพฤษภาคมเมื่อปี60 คือเกือบๆสองปีแล้ว คำพูดและประเด็นที่ธนาธรได้พูดไว้ที่ว่าคนยิ้มไม่มีเหตุผล ยิ้มสยามเป็นยิ้มโง่ๆถือเป็นการดูถูกเหยียดหยามคนไทยอย่างซึ่งๆหน้า

เพราะความเป็นคนไทยทุกรุ่นมีความภูมิใจกับคำว่า ยิ้มสยาม และเป็นเกียรติยศของแผ่นดินที่ฝรั่งแขกจีนยิมรับว่าแผ่นดินไทยคือ แลนด์ออฟสไมล์

แต่ตอนที่พูดนั่นไม่เป็นประเด็นสาธารณะ เพราะสื่อโชเชี่ยลยังไม่รู้ พอถูกนำมากระพือในสื่อสังคมออนไลน์เลยกลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันที

ทั้งที่เรื่องนี้ธนาธร พูดเอาไว้ตั้งแต่ปี60 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า เขาจะตั้งพรรคการเมือง หรือไม่ คงไม่มีใครใส่ใจมาก พอธนาธรกระโดดมาเล่นการเมือง เป็นคนดังเป็นแคนดิเเตนายกรัฐมนตรี คำพูดจองเขาจึงไม่ใช่สิ่งที่ฟังผ่านไปหรือทิ้งขว้างได้

ถ้าจะเอาที่มากันให้ชัด ก็คือ คนสัมภาษณ์ถามถึงประสบการณ์ของธนาธรที่ไปเห็นอะไรมาแล้วมากมาย คุณเห็นความน่าอยู่ของเมืองไทยอย่างไร? ถามกว้างๆแบบนี้ แต่ธนาธรตอบว่า

“เมืองไทยที่เป็น Land of smile... ผมมานั่งคิดว่าทำไมเราถึงยิ้ม ก็เพราะคนไทยไม่มีจุดยืนเรื่องอะไรเลย เมื่อโดนถามเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอบไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือยิ้ม คนไทยเป็นคนที่ไม่มีจุดยืน แม้แต่ในเรื่องที่สากลเขายอมรับกัน อย่างเช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน"

ถ้าย้อนไปที่ธนาธรพูดไว้ นอกจากด่าคนไทยผ่านเรื่องยิ้มมสยามแล้ว เวลาและที่เดียวกัน เขายังได้แสดงความเห็นเรื่อง ปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ด้วย ว่าไม่ต้องยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำ และพุทธศาสนาเป็นปัจจัยเหตุปัญหาของความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้

เมื่อเอามารีไว รีวิว ใหม่ กลายเป็นประเด็นร้อนที่กลายเป็นคลื่นไม่พอใจจนถึงเป็นกระแสความเกลียดชังขึ้นนทั่วไป แต่ทางด้านนายเอก ธนาธร ก็ไม่ได้โต้เถียงแก้ไขอะไร ก็คงไม่อาจปฏิเสธอะไรได้ เพราะมันพูดไว้จริง

ธนาธรเลยโดนด่าหนักกว่าทุกครั้ง ถล่มกันในสื่อออนไลน์ชุดใหญ่ไฟกะพริบ ที่เห็นแชร์กันสนั่นก็เป็นข้อคิดของอ. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ที่สั่งสอนให้ธนาธรรู้สำนึกในคุณแผ่นดินไทย แผ่นดินที่ทำให้ธนาธรมีตัวตนเป็นมหาเศรษฐีวันนี้

ถ้ามองผลถึงกระทบที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้ย่อมเป็นผลลบต่อความเชื่อมั่นในตัวธนาธรอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มคนในวัยผู้ใหญ่ที่แอบมีความชื่นชมในพรรคอนาคตใหม่ อาจจะเปลี่ยนใจไม่ลงคะแนนให้แล้ว

เพราะตัวหัวหน้าพรรคขวางโลกมากเกินไป ขืนเลือกไปอาจจะพาประเทศชาติเข้ารกเข้าพงมากกว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม

แต่สำหรับฐานเสียงหลักของอนาคตใหม่ ก็คงไม่รู้สึกอะไรมาก ยังไงก็คงจะเลือกเหมือนเดิม ไม่งั้นคงไม่มีกระแส “ฟ้ารักพ่อ”จากงานฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์

ขณะนี้ พรรคอนาคตใหม่ก็น่าจะเป็นหมากสำคัญบนกระดานการเมืองของขั้วเพื่อไทย โดยเห็นจากนโยบายให้เลิกเกณฑ์ทหาร ที่เพื่อไทยเปิดนโยบายนี้มาเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นการสะท้อนว่า เส้นขนานของพรรคเพื่อไทยกับอนาคตใหม่มาทับกันแล้วในนโยบายนี้

โดยพรรคเพื่อไทย เอานโยบายไม่มีการเกณฑ์ทหารมาเป็นนโยบายหลักของพรรค จะไม่รู้ว่าเป็นความคิดของธนาธรคงไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเอามาก็เพื่อแสดงถึงการยอมรับในความคิดของธนาธร เพื่อล๊อกกันไว้หลังเลือกตั้งก็จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาคุยกันอีก

ซึ่งดูแล้วอนาคตใหม่มีแต่ได้กับได้ ส่วนเพื่อไทยอาจจะเพลี่ยงพล้ำกับอนาคตใหม่ได้ เพราะหากอนาคตใหม่ได้จำนวนส. ส. เข้าสภาเยอะ ที่พวกเขาตั้งยิดไว้70คนจากที่ส่งเขตครบ350 คนกับ128 ในระบบรายชื่อ ก็อาจจะมีรายการงัดข้อกันเกิดขึ้นในขั้วนี้

เพราะวันนี้ธนาธรก็รู้ว่าเพื่อไทยขาดเขาไม่ ไม่มีเขาก็ไม่ทางได้เป็นรัฐบาล ธนาธรอาจจะมีข้อต่อรองกับเพื่อไทยอีกหลายข้อ อาจจะขอเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้

เพราะเขาทุ่มทั้งชีวิตมากับการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะสานปณิธานที่ตั้งใจไว้คือ ทำภารกิจของคณะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ให้แล้วเสร็จ และถ่สยโอนอำนาจลงมาให้ราษฏรอย่างสมบูรณ์

เพื่อไทยคงกระอักเลือดแต่ถ้าถึงขั้นนั้นคงไม่เหลือทางออก ก็ต้องยอม หากธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี คนไทยคงจะอึดอัดใจไม่น้อย คงจะยิ้มไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก


กำลังโหลดความคิดเห็น