กวดขันจับแอดมินเพจเฟซบุ๊ก “ฮิปโปรซิ่ง ประเทศนนท์” โพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถ พร้อมควบคุมตัวเยาวชนและผู้ใหญ่ 76 รายแข่งรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ เตรียมส่งตัวเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร, พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส., พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชัยธวัช ปรีประดิษฐ์ อายุ 23 ปี เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ฮิปโปรซิ่ง ประเทศนนท์” และยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 70 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 57 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 13 คัน ท่อไอเสีย จำนวน 30 รายการ และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 22 ราย ผู้ใหญ่ 54 ราย รวมทั้งหมด 76 ราย
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย นายชัยธวัช มีพฤติการณ์โพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในพื้นที่รอยปริมณฑลต่างจังหวัด ในผู้ติดตามกว่า 300 คนซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนิการจับกุมตัวในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายและเป็นบุคคลที่ 96 เพจที่ 112 ที่มีการถูกปิดไป นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมตัวเยาวชนและผู้ใหญ่ที่แข่งรถจยย.ในทางสาธารณะได้อีก 76 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเก็บตัวอย่าง DNA ซึ้งผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ ก่อนจะนำมาทำประวัติและปล่อยตัวไป
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สุ่มตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน จำนวน 41 ร้าน พบการกระทำความผิด 5 ร้าน และยึดท่อไอเสียของกลางมาเพื่อตรวจสอบ 30 รายการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดกวดขันวินัยการจราจรตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ได้อีก 99 คัน อีกด้วย
“อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่า ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุม หรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป” ผบก.จร.กล่าวทิ้งท้าย