หนุ่มจีนเนรคุณลวงฆ่าแม่ค้าขายเสื้อผ้าย่านสะพานใหม่ ญาติตัวเอง ดับคาห้องเช่า

หนุ่มจีนเนรคุณทั้งยืมทั้งขโมยเงินแม่ค้าขายเสื้อผ้าที่เป็นญาติตัวเอง รวมกว่า 5 แสนบาท แล้วหนีกลับประเทศ 2 ปี ก่อนติดต่อมาว่าจะคืนเงิน กลับลวงฆ่าในห้องเช่า ย่านสายไหม แถมฉกสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือ 2 บาท และแหวน 1 สลึงหลบหนีไปด้วย

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.ท.พิเชฐศักดิ์ ปิยรัตนสถิตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ภายในนิวพอร์ตเพลสคอนโด ซอยพหลโยธิน 52 แยก 16 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.น.2 ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.ภูมิพล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารแบ่งให้เช่าพักอาศัย สูง 4 ชั้น ที่บริเวณชั้นที่ 2 ภายในห้องเลขที่ 564/38 พบศพ นางสาวอารยา ทรัพย์สวรรค์ อายุ 69 ปี สภาพสวมเสื้อเชิ้ต แขนสั้น ลายดอกสีเหลือง นุ่งกางเกงขายาวสีดำ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนกลางห้อง พบรอยฟกช้ำที่ลำคอและตามร่างกาย เมื่อตรวจสอบสภาพห้องดังกล่าวพบร่องรอยการรื้อค้น นอกจากนี้ยังพบรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 1 ฒม 1532 กรุงเทพมหานคร ท้ายติดหลังคาแครี่บอยบรรทุกเสื้อสำหรับขายของผู้ตาย จอดทิ้งไว้ด้านหน้าอาคาร

จากนั้นทางตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในห้วงเวลาตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น. ของวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าสามารถจับภาพชายรูปร่างสูงสันทัด ผิวขาว สวมเสื้อยืดคอปก แขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ เดินมากับผู้ตายเข้าไปในห้องพัก ต่อมาชายรายนี้ได้เดินเข้าๆ ออกๆ หลายรอบ กระทั่งรอบสุดท้ายพบว่าที่มือขวาถือถุงพลาสติกสีน้ำเงินและเชือกไนลอนเข้าไป ก่อนหลบหนีออกจากห้องไป จึงรวบรวมเป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรพลิกศพ

จากการสอบถาม น.ส.พรทิพย์ เชื้อสุขศานต์ทอง อายุ 41 ปี ลูกสาวคนโตของผู้ตาย เล่าว่า แม่ตนมีอาชีพค้าขายเสื้อผ้าปลีก-ค้าส่งย่านสะพานใหม่ ครอบครัวตนมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยก่อนหน้านี้ทางบรรพบุรุษเคยสั่งเสียกับแม่ตนไว้ว่าครอบครัวเรามาจากประเทศจีน หากมีญาติมิตรคนที่รู้จักเดินทางมาจากประเทศจีน แล้วเดือดร้อนต้องเป็นที่พึ่งคอยช่วยเหลือเขาเหล่านั้น ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนมีชายรายนี้ทราบชื่อเพียง “กุ๊กกู๋” ได้เดินทางมาพบกับแม่ตนซึ่งเป็นชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย และติดต่อขอเช่าห้อง ก่อนจะมีการขอยืมเงินจำนวน 120,000 บาท อีกทั้งยังได้ขโมยบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายและนำไปกดเงินจำนวน 400,000 บาท ก่อนจะหลบหนีกลับประเทศจีน และขาดการติดต่อไป จึงได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน

“กระทั่งเมื่อ 2 วันก่อน ชายรายนี้ได้เดินทางมายังประเทศไทย และติดต่อมาเพื่อขอคืนเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) แม่ได้หายตัวไปตั้งแต่เวลา 12.00 น. โดยบอกว่าจะไปเปิดห้องเช่าให้คนที่มาเช่าห้องที่คอนโดดังกล่าว และให้พ่อเป็นคนเฝ้าร้านขายเสื้อผ้า จากนั้นน้องชายตนเดินทางไปที่คอนโดดังกล่าว และพบรถยนต์กระบะของผู้ตายจอดอยู่ จึงรีบขึ้นไปดูบนห้องพบว่าถูกล็อกจากด้านใน ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ จนทราบว่าแม่เสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ยังพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือ 2 บาท แหวน 1 สลึงได้หายไป จึงเชื่อว่าชายผู้นี้ได้ชิงทรัพย์แม่ตนไป” น.ส.พรทิพย์กล่าวทั้งน้ำตา

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนญาติผู้ตาย ตลอดจนต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนี้จะให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน รวมทั้งจะทำการประสานไปยัง สตม.เพื่อทำการป้องกันและติดตามตัวชาวจีนคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนก่อน