xs
xsm
sm
md
lg

ทลายเครือข่าย “ยายเจี๊ยบ มีนบุรี” นายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ยึดทรัพย์ได้กว่า 205 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “บิ๊กโจ๊ก” ร่วม บช.น.กวาดล้างนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เครือข่าย “ยายเจี๊ยบ มีนบุรี” ตรวจยึดและอายัดทรัพย์ 24 จุด พร้อมผู้ต้องหา 14 ราย ยึดทรัพย์ ได้กว่า 205 ล้านบาท ยังรวบหัวหน้าทีมเก็บดอกอีก 1 สารภาพส่งลูกน้องทวงเงินใครไม่ให้ถูกทำร้าย




วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบช.น. พร้อมตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยว และชุด ศปอส.ตร. นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้นแหล่งนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เครือข่าย น.ส.กรรณิการ์ ฉลองจันทร์ หรือยายเจี๊ยบ มีนบุรี โดยได้ทำการตรวจค้นเครือข่ายยายเจี๊ยบพร้อมกันในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 30 จุด มีหมายจับผู้ต้องหา 28 ราย ตรวจยึดและอายัดทรัพย์ 24 จุด ค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง 6 จุด จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 14 คน ยึดของกลางได้ทรัพย์สินรวม 205.5 ล้านบาท

โดยจุดที่น่าสนใจ คือ ภายในบ้านเลขที่ 195/155 หมู่บ้านพนาสนธ์ ถนนนิมิตรใหม่ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ต้องหารวม 4 คน คือ นายธันวา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นหัวหน้าโต๊ะเก็บดอกเบี้ยแล้วส่งให้ลูกน้องของยายเจี๊ยบมาเก็บอีกทอดหนึ่ง ผู้ต้องหาที่เหลือคือลูกน้องของนายธันวาทั้งหมดทำหน้าที่ไปเก็บเงิน หากใครไม่ให้ก็จะข่มขู่ลงมือทำร้ายร่างกาย ประกอบด้วย นายวิชาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี นายปฏิวัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และนายชัยรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางที่พบทั้งจักรยานยนต์ รถยนต์ เงินสด สมุดบัญชีอีกเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดการกลุ่มเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ 20-30 ซึ่งในกรุงเทพฯ นั้น ลูกหนี้จะวางมัดจำรถ ไม่มีที่ดินเหมือนต่างจังหวัด ซึ่งจะต้องปราบปรามให้หมด เครือข่ายนี้ทางยายเจี๊ยบมาทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบต่อจากสามีนายไพโรจน์ ฉลองจันทร์ ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว กลุ่มเหล่านี้มีเงินหมุนเวียนวันละ 100 ล้านบาท ใช้วิธีการเก็บเงินรูปแบบแก๊ง เรียกกันว่าแก๊งหมวกกันน็อก ซึ่งจะได้ขยายผลต่อไปยังนักการเมืองรายสำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป สำหรับในส่วนโต๊ะที่ตรวจค้นในจุดเกิดเหตุนั้น คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

จากการสอบสวนนายธันวาให้การรับสารภาพว่าตนมีรายได้เดือนละ 7 หมื่นบาท แบ่งให้ลูกน้องเฉลี่ยเดือนละ 9,000 บาท โดยแต่ละวันจะมีรายชื่อให้ลูกน้องไปกระจายทวงดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด มีลูกค้าประมาณ 100 คน อยู่ในละแวกย่านมีนบุรี มียอดทวงหนี้เดือนล้านกว่าบาท ถ้าลูกหนี้ไม่มีเงินให้ก็จะทำการทุบตีทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ บ้านที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นทั้ง 3 หลังพบเป็นบ้านเช่า เดือนละ 13,000 บาท โดยได้เช่าบ้านหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 รวมระยะเวลาเช่าบ้าน 6 เดือน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาอั้งยี่ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ของกลางทั้งหมดจะถูกยึดทั้งหมดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น