สนธิกำลังหลายฝ่ายจับรถเทรลเลอร์ 10 คัน ลักลอบขนหอมแดง-กระเทียมเถื่อน จากประเทศเพื่อนบ้านกว่า 280 ตัน มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท
วันที่ 30 มกราคม2562 นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารปตอ.2พัน4 ,พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง ,นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง และนายพิสูจน์ ดำสิงห์ กรมทางหลวงอยุธยา ได้ร่วมกันจับกุมรถเทรลเลอร์ขนย้ายกระเทียมนำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 9 คันและรถเทรลเลอร์ขนย้ายหอมแดง 1 คัน โดยจับกุมได้ใกล้เคียงตลาดไท ถนนเลียบคลองสอง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ด้านนายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการขนย้ายกระเทียมนำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้กระเทียมในประเทศราคาตกต่ำ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษเข้าตรวจสอบ กระทั่งช่วงสายที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ตรวจพบรถบรรทุกพ่วง ที่บรรทุกกระเทียม และหอมแดง ที่นำเข้าจากต่างประเทศจำนวนกว่า 280 ตัน โดยมีต้นทางจากท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ปลายทางห้องเย็นย่านบริเวณตลาดไท โดยไม่มีหนังสืออนุญาตการขนย้ายฯ รวมการจับกุมทั้งสิ้น 10 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2562 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายกระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนรถเทรลเลอร์ขนย้ายทั้งหมด 10 คันที่บรรทุกเกินกว่ากฎหมายกำหนดกว่า 50 ตัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานใช้ยานพาหนะน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเดินบนทางหลวงอันเป็นความผิดพรบ.ทางหลวงพ. ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ. ศ. 2549) มาตรา 61 พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งได้ประสานกรมศุลกากร ให้ดำเนินการตรวจสอบการขนย้ายดังกล่าวว่ามีการเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายด้วยหรือไม่
นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับการตรวจสอบดังกล่าวถือว่าเป็น แนวทางแก้ไขอีกมาตรการหนึ่งของกรมฯ เป็นการป้องปรามไม่ให้มีการขนย้ายนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อการรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรมให้แก่เกษตรกร ทั้งนี้ กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
