MGR Online - สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ประสานพาตัวผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพ “โซ มายฮูน” มอบตัวต่อ บก.ป. เบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นชาวเกาหลี และเป็นโปรแกรมเมอร์ร่วมหุ้นแก๊งทำพนันออนไลน์
จากกรณีพบศพถูกฆ่าหั่นแยกชิ้นส่วนศีรษะ แขน ขา เหลือแต่ลำตัวตั้งแต่ช่วงคอลงมาถึงโคนขา แผ่นหลังมีรอยสักลายกราฟิก หน้าอกสักรูปเกอิชา ยัดใส่ถุงดำ 3 ถุงทิ้งกลางป่าหนองสนม ต.เนินพระ อ.เมืองฯ จ.ระยอง ต่อมาพบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบถูกทิ้งริมหาดตากวน ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง กระทั่งทราบว่าศพที่ถูกฆ่าหั่นสยองแยกหัวแขนขา รายนี้คือนายโซ มายฮูน อายุ 38 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ โดยมีประวัติเคยถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมในคดีการพนันเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2558 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค.) ที่กองปราบปราม รายงานแจ้งว่า เมื่อเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นำตัวนายคิม แฮอุน อายุ 32 ปี ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าหั่นศพนายโซ มายฮูน อายุ 38 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ก่อนแยกชิ้นส่วนใส่ถุงดำ นำทิ้งในป่าสงวนหนองสนม ซอยศาลเจ้า ต.เนินพระ อ.เมืองฯ จ.ระยอง เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป.
จากการสอบสวน นายคิม แฮอุน รับว่าตนมีหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ร่วมหุ้นทำพนันออนไลน์กับเพื่อนชาติเดียวกัน แต่ถูกผู้ตายหักหลังเรื่องเงินจึงถูกเพื่อนในกลุ่ม 2 คนฆ่าหั่นศพ ในวันเกิดเหตุตนถูกบังคับให้นั่งดูการฆ่าด้วย หากไม่นั่งดูจะถูกฆ่าอีกคน ต่อมาได้ติดต่อไปยังสถานทูตเพื่อขอคำปรึกษาก่อนจะมีการเข้ามอบตัวดังกล่าว
พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. กล่าวว่า ทั้งนี้ทันทีที่มาถึงก็ได้มีการสอบปากคำนายคิม ในเบื้องต้น ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพโดยยอมรับว่า มีหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ร่วมหุ้นทำพนันออนไลน์กับเพื่อนชาติเดียวกัน แต่ถูกผู้ตายหักหลังเรื่องเงินจึงถูกเพื่อนในกลุ่มอีก 2 คนฆ่าหั่นศพ ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุนายคิมอ้างว่าถูกบังคับให้นั่งดูการฆ่าด้วย หากไม่นั่งดูจะถูกฆ่าอีกคน ด้วยความหวาดกลัวจึงยอมทำตาม กระทั่งเมื่อได้รับอิสระถูกปล่อยตัวออกมาเกรงว่าจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย จึงตัดสินติดต่อไปยังสถานทูตเพื่อขอคำปรึกษาก่อนจะมีการเข้ามอบตัวดังกล่าว เพื่อหวังว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกันตัวให้เป็นพยานในคดี
อย่างไรก็ตามหลังจากสอบปากคำในเบื้องต้นเสร็จสิ้น ก็ได้มีการประสานส่งตัวนายคิม ต่อไปยังตำรวจท้องที่เจ้าของคดี เพื่อนำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายพร้อมกับพาไปชี้จุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ในส่วนของกองปราบนั้นเบื้องต้นยังคงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสข้อเท็จจริงร่วมกับทางตำรวจท้องที่ พร้อมกับขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุที่เหลือต่อไป