xs
xsm
sm
md
lg

คุ้ยโซเชียลฯ ค้นหลักฐาน พบข้อมูล “โรงพักวัดพระยาไกร” ไปทำบุญจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผู้จัดการออนไลน์ - พบตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ทำบุญเด็กด้อยโอกาส ตามหนังสือตราครุฑขอสปอนเซอร์ผับดังจริง เกิดขึ้นมานานแล้ว ชาวเน็ตเสียงแตก ไม่ควรแยกแยะคนทำบุญ อีกทั้งผู้บังคับบัญชาก็ถูกย้ายไปช่วยราชการแล้ว

จากกรณีที่มีการแชร์หนังสือตราครุฑของตำรวจ สน.วัดพระยาไกร และทหารสังกัดกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 6 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ที่ส่งไปขอสปอนเซอร์จากผู้บริหารผับดัง 56 อารีน่า มิวสิคฮอลล์ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เพื่อนำไปบริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารตั้งแต่เดือน ม.ค. 2561 หรือเมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว จนนำมาซึ่งประเด็นร้อนระอุบนโลกโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเมื่อไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผับดังกล่าวได้ถูกฝ่ายปกครองผสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บุกจับกุมได้พร้อมนักท่องเที่ยวปัสสาวะสีม่วงและยาเสพติดจำนวนหนึ่งตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นประวัติเก่าๆ ตามโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ พบว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ทางโรงพักวัดพระยาไกรได้มีโครงการนำของไปบริจาคให้ผู้ยากไร้จริง โดย พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.วัดพระยาไกร ร่วมกับ กต.ตร.สน.วัดพระยาไกร ภาคเอกชนและประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรม โครงการ “เมืองสู่ป่า ธารน้ำใจสู่น้อง” ในท้องถิ่นทุรกันดาร ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการแบ่งปัน ช่วยเหลือเด็กยากจนในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดในครอบครัวที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และโอกาส อย่างเช่นเด็กที่เรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยได้ส่งมอบเครื่องกันหนาว เครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์การเรียน ให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ศาสตราจารย์สำเภา-ไพวรรณ วรางกูร ตั้งอยู่บ้านห้วยระพริ้ง หมู่ 8 ตำบลพระวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปัจจุบันมีเด็กนักเรียนจำนวน 137 คน และในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนที่เป็นเด็กประจำอยู่จำนวน 50 คน เป็นโรงเรียนแรกที่จะช่วยเหลือ ทั้งนี้ ได้นำสิ่งของที่จำเป็นสำหรับเด็กๆ ในการศึกษาเล่าเรียน และสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ตลอดจน ทุนการศึกษา พร้อมทำกิจกรรมสันทนาการ และเลี้ยงอาหารกลางวัน ให้กับเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านห้วยระพริ้ง หมู่ 8 ต.พระวอ อ.แม่สอด จ.ตาก

กิจกรรมดังกล่าวนั้นมีสื่อมวลชนหลายแขนงทำการเสนอข่าวของโครงการ มีการลงภาพและข้อความไว้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจน ทำให้ชาวโซเชียลฯ เริ่มมีความเห็นแตกต่างกันเป็นสองเสียง บ้างก็ไม่เห็นด้วยที่หน่วยงานราชการจะออกหนังสือไปขอรับบริจาคจากภาคเอกชน แต่ก็มีบางคนเห็นว่าหากเป็นโครงการทำเพื่อสังคมและผู้ยากไร้รวมถึงผู้ด้อยโอกาสจริงๆ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องผิดวินัยหรือจริยธรรมแต่อย่างใด เพราะทุกภาคส่วนสามารถร่วมกันทำความดีได้โดยไม่สมควรแยกแยะ ซึ่งในกรณีล่าสุดนี้หลังมีการบุกเข้าจับกุมผับดังกล่าวทางผู้บังคับบัญชาของ สน.วัดพระยาไกร ก็ถูกย้ายไปช่วยราชการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว









กำลังโหลดความคิดเห็น