MGR online - บช.ภ.1 แถลงจับกุมคดีลักรถ จยย. 2 คดี ในพื้นที่ปทุมธานี และ อยุธยา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยรถ จยย. ที่ลักมาได้ จะนำไปขายต่ออีกทอด เตรียมขยายผลจับกุมฐานรับซื้อของโจร
วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดีลักรถ จยย. 2 คดี โดยคดีแรก พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี จับกุมนายศักดิ์รินทร์ หรือ ดรีม กวั้งซ้วน อายุ อายุ 19 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช นายเอกชัย หรือ เอก ดีสิงห์บุก อายุ 18 ปี ชาว จ.นครนายก นายภูชิชย์ หรือ แบงค์ ชวดตัว อายุ 18 ปี จ.ปทุมธานี นายประดิษฐ์ หรือ เดี่ยว นวลยิ้ม อายุ 34 ปี จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 28/2562 ลง 19 ม.ค. 2562 ข้อหาร่วมกันรับของโจร และ น.ส.พิมพิไล หรือ ฝน แซ่ตี อายุ 26 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 29/2562 ลง 19 มกราคม 2562 ข้อหาร่วมกันรับของโจร พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125i สีขาว ทะเบียน 6 กบ 6376 กทม. หมวกกันน็อก 2 ใบ เสื้อผ้า 5 ชุด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถยนต์กระบะอีซูซุ สีประตู สีขาว ทะเบียน ขษ 2460 ชลบุรี 1 คัน รถ จยย. ยี่ห้อคาวาซากิ ทะเบียน ลกล 161 กทม. 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย. 4 แผ่น โครงรถ จยย. 1 โครง เครื่องมือที่ใช้ในการชำแหละ 1 ลัง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ จาก นายนภัสกร เทียมสนิท อายุ 19 ปี แจ้งว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 สีขาว ทะเบียน 6 กบ 6376 กรุงเทพฯ ที่จอดไว้หน้าหอพัก P.K. ม.1 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้หายไป ต่อมา ชุดจับกุมได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่า คนร้ายมี 2 คน เป็นชายวัยรุ่น จึงสืบสวนติดตามจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งสอง คือ นายศักดิ์รินทร์ หรือ ดรีม กวั้งซ้วน อายุ 19 ปี และ นายเอกชัย หรือ เอก ดีสิงห์บุญ อายุ 18 ปี และสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายศักดิ์รินทร์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักรถ จยย. จริง โดยร่วมกันกับนายเอกชัยหรือ เอก โดยขับรถ จยย. ฮอนด้าดรีม สีเขียว ซึ่งลักมาจากเขตพื้นที่ สภ.วังน้อย เพื่อมาใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุต่อ ส่วนวันเกิดเหตุ ได้ไปลักทรัพย์รถ จยย. ที่จอดไว้หน้าหอพัก โดย นายศักดิ์รินทร์ เป็นคนลงไปถีบคอรถ จยย. ผู้เสียหายแล้วเข็นออกมา ก่อนลักเอาไป หลังจากนั้น ได้นำรถ จยย. ของผู้เสียหายไปจอดซุกซ่อนไว้ที่ห้องเก็บของบ้านนายภูชิชย์ หรือ แบงค์ ใน จ.ปทุมธานี โดย นายภูชิชย์ ก็รู้ว่าเป็นรถที่ได้มาจากการลักทรัพย์ ชุดสืบสวนจึงได้จับกุมตัวนายภูชิชย์ไว้ ก่อนนำรถ จยย. ที่ขโมยมาไปขายให้กับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “วิหค พลัดถิ่น” จึงได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้รับซื้อ โดยผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่า นำรถ จยย. ที่ลักทรัพย์มาได้ ไปขายให้กับ นายประดิษฐ์ หรือ เดี่ยว และ น.ส.พิมพิไล หรือ ฝน สองสามีภรรยา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในข้อหารับของโจร และเข้าจับกุมตัวได้
จากนั้น ชุดจับกุมได้ขยายผลทราบว่า นายประดิษฐ์ และ น.ส.พิมพิไล รับซื้อรถ จยย. ทั้งสองคันไปขายต่อให้กับช่างโหน่ง เป็นเงิน 14,500 บาท ได้กำไร 4,500 บาท โดยนายประดิษฐ์เป็นคนคอยติดต่อ และประสานงานกับลูกค้า ส่วน น.ส.พิมพิไล มีหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ขษ 2406 ชลบุรี พา นายประดิษฐ์ ไปรับซื้อรถ จยย. ที่ได้มาจากการลักขโมย ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปยังบ้านพักห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.9 ต.มาบโปร่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี พบรถ จยย. คาวาซากิ ksr 1 คัน และแผ่นป้ายทะเบียนหลายรายการ จึงยึดไว้เป็นของกลางเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายศักดิ์รินทร์ นายเอกชัย และ นายภูชิชย์ ว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร ส่วน นายประดิษฐ์ และ น.ส.พิมพิไล แจ้งข้อหา ร่วมกันรับของโจร ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาคดีที่ 2 พ.ต.อ.อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และ เจ้าหน้าที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ทำการจับกุม นายบอล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ด.ช.เติ้ล (นามสมมติ) อายุ 14 ปี พร้อมด้วย ของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โครงรถจักรยานยนต์ 1 โครง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มกราคม เวลาประมาณ 23.00 น. มีผู้เสียหาย 2 ราย แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ถูกคนร้ายลักรถ จยย. ไป ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายบอล และ ด.ช.เติ้ล ได้ร่วมกันลักทรัพย์รถ จยย. ของผู้เสียหายไป จึงได้ติดตามตัวก่อนสามารถจับกุมตัวได้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันกับพวกที่ยังเป็นเด็กและเยาวชน รวมประมาณ 8 คน ร่วมกันก่อเหตุลักรถ จยย. ชุดสืบสวนจึงขยายผลก่อนทำการตรวจยึดรถ จยย. ที่ถูกลักมาได้เพิ่มเติมอีก 6 คัน โครงรถ จยย. 2 โครง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน หรือรับของโจร” พร้อมสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมตัวผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
