เปิดโฉมหน้า “เทพบุตร โซโล-ปัณณวิชญ์ ประทุม” หัวโจกแก๊งมันทุกเม็ด สั่งตายน้องเรส ผวาหมายจับหนีซุกพม่า

MGR Online - ศปอส.ตร.จับสมาชิกแก๊งเฟซบุ๊ก “มัจจุราช เพชรบูรณ์” เครือข่ายที่รับงานจาก “เทพบุตรโซโล” รู้ตัวแล้ว “ปัณณวิชญ์ ประทุม” ขอหมายจับหัวหน้าแก๊ง “มันทุกเม็ด” ตั้งข้อหาหนักจ้างฆ่า ซ่องโจร หนีกบดานตะเข็บชายแดน ชี้แก๊งค้ายาทางโซเชียลฯ

วันนี้ (22 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) และ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. และผู้ที่เกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุม นายวิชัย เชียงบุญมี หรือนัย อายุ 30 ปี, นายธวัชชัย เมธากุล หรือรัน อายุ 24 ปี, นายกิตติพงษ์ น้อยกลม หรือเจน อายุ 25 ปี และนายณัฐวุฒิ บุญทอง หรือต้น อายุ 24 ปี สมาชิกแก๊งที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก “มัจจุราชเพชรบูรณ์” เป็นเครือข่ายที่รับงานจาก “เทพบุตรโซโล” โดยพบว่าก่อเหตุลักษณะเดียวกัน คือ ว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นไปทำร้ายร่างกายผู้ที่หักหลังขบวนการค้ายาเสพติด โดยให้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานให้ผู้สั่งการ ในกรณีนี้จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย คือ มีผู้เสียหายเป็นชายอายุ 21 ปี ที่ปรากฏในคลิปมาชี้ตัวยืนยันผู้ต้องหาด้วย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า การสืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด “เทพบุตรโซโล” พิสูจน์ทราบแล้วว่า ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “เทพบุตรโซโล” ที่บงการทำร้ายร่างกาย นายคุรุศาสตร์ ศรีคุณหลิว หรือเรส อายุ 17 ปี ผู้ที่หักหลังการค้ายาเสพติดจนเสียชีวิต เหตุเกิดท้องที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น คือ นายปัณณวิชญ์ ประทุม อายุ 30 ปี ชาว จ.พิจิตร โดยพบว่านายปัณณวิชญ์มีอีกชื่อว่า “โก๋แก่” เป็นหัวหน้าแก๊งมันทุกเม็ด เป็นขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่ง ศปอส.ตร.เคยขยายผลยึดทรัพย์ร้านยางรถยนต์ที่เปิดเพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ในพื้นที่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีกับกองกำลังในประเทศเพื่อนบ้าน ฝั่งชายแดน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยในแก๊งมันทุกเม็ด นายปัณณวิชญ์ใช้ชื่อว่า “โก๋แก่” เป็นระดับสั่งการหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำปล่อยต่อ โดยหาสมาชิกจากเยาวชนที่หลงเชื่อผ่านทางโซเชียลมีเดีย เบื้องต้นสืบทราบมีเครือข่ายที่ขายยาให้ประมาณ 10 คน จับได้บางส่วนเหลือเพียง 4-5 คน ขณะนี้แตกกระเจิงไปแล้ว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายปัณณวิชญ์ ในข้อหาร่วมใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และอั้งยี่ ซ่องโจร จากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับค้างเก่าอยู่มากกว่า 2 หมายจับ ในหลายท้องที่เกี่ยวกับคดียาเสพติด จากการสืบสวนทราบว่านายปัณณวิชญ์มักจะเดินทางเข้าออกไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ อาศัยช่องว่างแนวชายแดนติดต่อกับกลุ่มค้ายาในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งยังไม่ทราบว่ากลุ่มไหน ตรวจสอบข้อมูลของ สตม.ไม่พบข้อมูลการเข้าออกผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด แต่สืบทราบว่าใช้วิธีข้ามไปมาผ่านชายแดนมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว บางครั้งก็สั่งการค้ายา และทำร้ายร่างกายตอนอยู่ฝั่งไทย บางครั้งก็ทำในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม สั่งการกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังจากความเคลื่อนไหวของนายปัณณวิชญ์และพวกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะด่านชายแดนแม่สาย เชียงแสน และหนองคาย หากพบก็ต้องจับให้ได้ ในเบื้องต้นออกหมายจับนายปัณณวิชญ์เพียงคนเดียว ส่วนพวกที่อยู่ในแก๊งมันทุกเม็ด คือ นายสุวิต นายชาติชาย และนายเจริญวุฒิ สมาชิกแก๊งอีก 3 คนจะขยายฐานสมคบค้ายาเสพติดต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มผู้ต้องหาจะหลบหนีไปต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องในการติดตามจับกุมคนร้าย แม้โลกนี้อยู่ที่ไหนกับใคร เราก็สามารถตามจับกุมได้ โดยปีนี้ไทยเป็นประธานอาเซียน จะใช้ข้อได้เปรียบ การประสานงานตรงนี้ในการติดตามจับคนร้ายให้ได้

“นอกจากเทพบุตรโซโลว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทำร้ายร่างกายเยาวชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จนเสียชีวิต แล้วยังพบว่าเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ในพื้นที่อื่น ทั้งในพื้นที่ภาค 4 ภาค 6 เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.พัทลุง และ จ.เพชรบูรณ์ สำหรับกลุ่มที่รับงานจากแก๊งมันทุกเม็ดในการทำร้ายร่างกาย กระทืบผู้ที่หักหลัง มีสัญลักษณ์รอยสักที่ขมับ ต้นคอ ลายสักคำว่ามันทุกเม็ดไว้ด้วย การสืบสวนสอบสวนขยายผลแก๊งนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ยืนยันว่าแก๊งนี้ไม่ใช่แก๊งใหญ่ ไม่ใช่แก๊งมาเฟีย หรืออาชญากรอะไร เป็นแก๊งค้ายาเสพติดที่พยายามใช้ช่องทางทางโซเชียลมีเดียในการหาลูกค้า และมาก่อเหตุรุนแรงทำร้ายร่างกาย ว่า มีเงินหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท แต่เงินพวกนี้เป็นเงินร้อน ได้มาก็หายไป ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกลัว ตำรวจติดตามจับกุมอยู่” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว