MGR Online - สาวพิษณุโลกร้องพระพ่อวัดบ้านพร้าวหายตัวปริศนา บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หวั่นถูกพระวัดเดียวกันลวงไปฆ่า ไม่เชื่อหลงป่า
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ช่อเพชร นวลวัน อายุ 28 ปี ชาว จ.พิษณุโลก บุตรสาวพระเด็จ คงกระพันธุ์ อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2561 หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย ซึ่งเป็นเทือกเขาหลังหมู่บ้านและเขตติดต่อ 3 หมู่บ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หน่วยเขาช้างล้วง อุทยานแห่งชาติ น้ำตกชาติตระการ กรมอุทยานฯ พร้อมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพร้าว และชาวบ้านระดมกำลังออกตามหาแต่ไม่พบตัว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป.เพื่อให้ช่วยเข้าคลี่คลายคดีโดยเกรงว่าอาจถูกลวงไปฆาตกรรม
น.ส.ช่อเพชรกล่าวว่า พระพ่อมีกิจนิมนต์ให้ขึ้นไปปักธงที่ยอดเทือกเขาผาขี้ควาย เดินทางไปกับพระอำนาจ ซึ่งเป็นพระอยู่วัดเดียวกัน แต่พบว่าพระพ่อไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ.นครไทย ไว้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 นับแต่นั้นมีการระดมคนช่วยกันค้นหาพระพ่อ แต่ยังไม่เจอจนจะครบ 1 เดือนแล้ว ทางญาติพบความผิดปกติ เนื่องจากทุกครั้งที่พระพ่อจะไปกิจนิมนต์ที่ไหน จะบอกกับทางบ้านก่อน อีกทั้งพระพ่อทำงานในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี ไม่มีทางที่จะหลงป่า และป่าไม่ใช่ป่าทึบ มีทางเดินไปจนสุดยอดเขา ไม่มีทางที่จะหลงป่าอย่างแน่นอน เชื่อว่าน่าจะมีการลวงไปฆาตกรรม เพราะพระพ่อไม่เคยหายนานจากบ้านไปเกิน 2 วัน การเดินทางขึ้นไปปักธงนั้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
น.ส.ช่อเพชรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้สอบถามไปยังพระอำนาจ พระลูกวัดที่ไปด้วยกัน ตอบเพียงแค่ว่าเดินทางไปด้วยกันจริง แต่หลงกันระหว่างทาง เพราะพระพ่อเดินตามมาไม่ทัน แต่ตนไม่เชื่อว่าพระพ่อไปกิจนิมนต์ เนื่องจากว่าหากพระพ่อจะเดินทางไปกิจนิมนต์ในป่าจะต้องเตรียมไฟฉาย ไฟแช็กไปด้วย แต่พบว่าที่กุฏิยังมีของใช้อยู่ครบ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบในกุฏิพบว่ามีการถูกรื้อค้น เชือกด้านหนึ่งของมุ้งขาดออก และยังพบจีวรกับผ้าห่มถูกฝังรวมกันไว้หลังกุฏิ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการซักผ้าห่มจำนวน 2 ผืน โดยปกติแล้วหากจะมีการซักผ้าห่มนั้นพระพ่อจะให้ทางบ้านซักให้ ไม่มีทางที่พระพ่อจะซักเอง ทั้งนี้ ทางญาติได้ตั้งข้อสงสัยในตัวพระอำนาจ เนื่องจากว่าพระพ่อและพระอำนาจเคยมีปัญหากันเรื่องของการยืมเงิน โดยครั้งแรกพระอำนาจได้ยืมเงินไปจำนวน 2,000 บาท แต่ไม่ได้เงินคืน วันเกิดเหตุพระอำนาจได้เข้ามายืมเงินจำนวน 200 บาท แต่พระพ่อไม่ให้ จึงได้เกิดการโต้เถียงกัน ตรงนี้มีเณรน้อยเห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเป็นเรื่องของพระผู้ใหญ่” น.ส.ช่อเพชรกล่าว
น.ส.ช่อเพชรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้การจากสอบปากคำพระอำนาจให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตรงกับที่เล่าให้ตนฟัง พระอำนาจเล่าว่า ได้ไปกิจนิมนต์กับพระพ่อเพียง 2 รูป แต่เมื่อให้การกับตำรวจกลับบอกว่าไปกับพระพ่อ และเณรน้อย รวมเป็น 3 รูป ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นชาวบ้านเห็นพระอำนาจและเณรน้อยขึ้นรถไปจริงแต่ไม่เห็นพระพ่อ จึงเชื่อว่าพระพ่ออาจไม่ได้ขึ้นไปบนเขาเลยด้วยซ้ำ ทั้งนี้ พระอำนาจเป็นพระที่บวชได้ประมาณ 2 ปี ก่อนที่พระพ่อจะบวชได้ประมาณ 11 เดือน แต่ขณะนี้พระอำนาจได้ถูกให้สึกเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจร่างกายและพบว่ามีสารเสพติดภายในร่างกาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป