ร้อง ผบ.ตร.คลี่เงื่อนงำนักธุรกิจแดนผู้ดีบิ๊กไบค์คว่ำที่ภูเก็ตเสียชีวิต หลังโอนหุ้นโครงการบ้านหรูให้คนไทย

MGR online - ครอบครัวนักธุรกิจชาวอังกฤษ ส่งทนายร้อง ผบ.ตร.คลี่ปมเงื่อนงำรถบิ๊กไบค์คว่ำที่ภูเก็ตบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดโยงคดีฮุบโครงการบ้านพักหรู เพราะเหตุเกิดหลังโอนหุ้นให้นักธุรกิจอสังหาฯ ชาวไทยเพียง 3 เดือน เคยร้องเรียนกองปราบปราม ตั้งแต่ปี 2559 แต่คดีไม่คืบหน้า

วันนี้ (11 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายวินเซนต์ แม็กโอเวน ชาวอังกฤษ ได้รับมอบอำนาจจาก นางซาแมนตา ซิมส์มอนส์ มารดาของนายสตีเวน เจมส์ แกรนด์วิลล์ อดีตทนายความและนักธุรกิจสัญชาติอังกฤษ เดินทางมาขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ตรวจสอบคดี หลังจาก นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ ถูกฉ้อฉลทางธุรกิจและประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ทำให้ต้องกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านเกิดและสุดท้ายเสียชีวิต

นายวินเซนต์กล่าวว่า เมื่อปี 2543 นายสตีเวนนำเงินสะสมกว่า 800 ล้านบาท ลงทุนซื้อที่ดิน 113 ไร่ ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน จ.ภูเก็ต ภายใต้ชื่อโครงการ “ปุระวนา รีสอร์ท” ต่อมา ปี 2553 มีชายชาวอินเดียที่แอบอ้างเป็นคนกว้างขวางในสังคมธุรกิจ กลั่นแกล้งนายสตีเวนจนถูกดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกงประชาชน ถูกคุมขังในเรือนจำ 475 วันก่อนศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง จากนั้นนายสตีเวนก็ออกมาดำเนินโครงการดังกล่าวต่อหลังมีปัญหาด้านการเงิน

นายวินเซนต์กล่าวอีกว่า ในปี 2554 นายสตีเวนได้รู้จักกับสองพี่น้องนักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตระกูลดังซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ยื่นข้อเสนอทางธุรกิจให้ นายสตีเวน โอนหุ้น 99 เปอร์เซ็นต์ของโครงการให้กับกลุ่มนายทุนดังกล่าว โดยอ้างว่านายสตีเวนเคยมีคดีความอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและต้องการเข้าไปพัฒนาโครงการ แต่หลังจากทำสัญญาโอนหุ้นเพียง 3 เดือน ในวันที่ 24 มี.ค. 2556 นายสตีเวนประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พลิกคว่ำ ศีรษะถูกกระแทกอย่างรุนแรงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถลอกหรือฟกช้ำ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ทำให้นายสตีเวนต้องกลับไปรักษาตัวที่ประเทศบ้านเกิดนาน 4 ปี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จนเสียชีวิตเมื่อเดือน ธ.ค. 2560

“ส่วนสัญญาโอนหุ้นนั้นพบว่าไม่มีการเข้าไปพัฒนาโครงการแต่อย่างใด นำไปสู่การฟ้องร้อง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในขั้นศาล เพื่อให้มีการโอนหุ้นคืนให้แก่ญาตินายสตีเวน นอกจากนี้ ครอบครัวนายสตีเวนเคยร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่ปี 2559 แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเข้าร้องเรียนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบคดีดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาได้ใช้เงินไปกว่า 15 ล้านบาทในการต่อสู้คดีและหาความจริง” นายวินเซนต์กล่าว