MGR Online - ผอ.ศปชก.ตร. และผบช.สตม. แถลงผลกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติตามหมายจับต่างประเทศ เป็นผู้ต้องหาสัญชาติจีน เกาหลีใต้ อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน เช็ก ตุรกี นิวซีแลนด์ อเมริกา และรัสเซีย ทั้งสิ้น 28 ราย
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอาดพรรค ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ผอ.ศปชก.ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยว ชุด ศปอส.ตร. และชุด ศปชก.ตร แถลงผลกวาดล้างจับกุมบุคคลที่หมายตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL RED NOTICE) ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญและเป็นที่ต้องการตัวของต่างประเทศ โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่างประเทศที่อยู่ในบัญชีบุคคลต้องการตัวจากตำรวจสากลได้ทั้งสิ้น 28 ราย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้กวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติที่มีหมายจับ หลบหนีคดี และอาศัยประเทศไทยเป็นพื้นที่หลบซ่อน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย ทางศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางตำรวจสากลจากกองการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต นายตำรวจประสานงานต่างประเทศที่ประจำในประเทศไทย ตลอดจนหน่วยบังคับใช้กฎหมายของต่างประเทศหลายหน่วยงาน แม้ว่าศูนย์ศปชก.ตร.เพิ่งเริ่มปฏิบัติการได้เพียง 1 เดือน นับแต่เดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา แต่มีผลการปฏิบัติสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่างประเทศที่อยู่ในบัญชีบุคคลต้องการตัวจากตำรวจสากล ได้ทั้งสิ้น 28 ราย เป็นผู้ต้องหาสัญชาติจีน เกาหลีใต้ อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน เช็ก ตุรกี นิวซีแลนด์ อเมริกา และรัสเซีย มีทั้งความผิดหลากหลาย ได้แก่ ฉ้อโกง ฆาตกรรม ยาเสพติด กฎหมายศุลกากร สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จึงถือเป็นก้าวสำคัญของไทยในการบูรณาการความร่วมมือระดับนานาชาติในการสนับสนุนความมั่นคงของไทยตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีนโยบายให้ความร่วมมือ และประสานงานตำรวจสากลทั่วโลก ในการสกัดกั้น เฝ้าระวังบุคคลอันตรายเป็นภัยคุกคามหรือคนร้ายข้ามชาติ โดยจะสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย และไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อนหรือเตรียมการในการกระทำความผิดข้ามชาติ หากประเทศอื่นๆ ประสงค์จะประสานความร่วมมือ ทาง สตม.ยินดีให้ความร่วมมือทุกรูปแบบ นอกจากนี้ การบูรณาการระหว่างกันเป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนศูนย์ฯ และสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนดีๆ จากทั่วโลก และมุ่งสกัดกั้นคนร้ายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอย่างดีแล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้พัฒนารูปแบบการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติ พ.ศ. 2556 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 พ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นต้น เพื่อให้การปฏิบัติทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับนโยบาย และกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภูมิภาคที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ