รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2561 ตอน “วัฒนา-น้องโบว์” ร้าวถึง “คนอยากเลือกตั้ง”
เรื่องภาพและคลิปหลุดของ “วัฒนาและน้องโบว์” ที่เป็นข่าวอื้อฉาวในช่วงนี้ เป็นกรณีที่คนเป็นเหยื่อจะหนีไม่พ้นกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเด็นศีลธรรม จริยธรรม ชั่วดีถี่ห่าง ไม่ว่าคนในคลิปจะเป็นใคร
ยิ่งตัวละครเป็นผู้มีชื่อเสียง มีบทบาทในสังคม และทางการเมืองของประเทศด้วย ก็ยิ่งจะเจอจัดหนักเป็นธรรมดา
“วัฒนาและน้องโบว์” ทั้งคู่แม้ว่าจะไม่ได้ยอมรับในตอนแรก แต่ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่ตน ซึ่งทั้งสองคน ย่อมถือได้ว่าเป็นบุคคลสาธารณะที่สังคมรู้จักหน้าคร่าตาเป็นอย่างดี และต้องพร้อมจะโดนตรวจสอบทุกด้าน ด้วย
ฝ่ายหนึ่งคือ “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข คือนักการเมืองชื่อดัง โชกโชนบนเวทีการเมือง เป็นสายล่อฟ้าที่วิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบตอบโต้กับคสช. อย่างเผ็ดร้อนมาตลอด และเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางแค พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ส่วนฝ่ายหญิง “น้องโบว์” ณัฏฐา มหัทธนา เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นนักเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”ในยุคคสช. ตั้งแต่คสช. ยึดอำนาจมา หญิงสาวคนนี้ได้ออกมาต่อต้านอำนาจเผด็จการอย่างกล้าหาญเร้าร้อน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนอยู่ไม่น้อย
เรื่องที่ทั้งสองประสบอยู่ สังคมให้ความเห็นใจ เนื่องจากการถูกนำเรื่องส่วนตัวมาเปิดเผยในที่แจ้ง ถือเป็นการคุกคามต่อสิทธิบุคคลอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่สกปรก ไม่ว่าจะเป็นการหวังผลประโยชน์ทางไหนก็ตาม ไม่จะเป็นใครทำ ก็สมควรประณาม และเอาความให้ถึงที่สุด
คนย่อมถูกทำลายได้แต่แพ้ไม่ได้ การที่น้องโบว์เปลี่ยนใจหันกลับมาเอาความจะฟัองกับคนทำนั้น เป็นเรื่องที่สมควรและถูกต้อง นอกจากจะเป็นปกป้องสิทธิตัวเอง ยังมีผลดีกับสังคมด้วย
อย่างที่ “เต่านา ม. ล. มิ่งมงคล โสณกุล” ได้เขียนในเฟซบุ๊คส่วนตัว สะท้อนมาจากความห่วงใย มีข้อชี้แนะไปถึงต้องโบว์ที่น่ารับฟัง ว่า ถ้าจะพูดกล่าวหาใคร แม้แต่ทหาร..เราว่าก็ควรจะมีหลักฐาน และ ออกมาแถลงคู่กับคุณวัฒนาด้วย เพราะเรื่องที่พูดมันเกี่ยวกับคุณวัฒนาด้วยแบบเต็มๆ
หม่อมเต่านาบอกว่า ทางออกอันนี้มีสั้นๆแค่สองทางคือ 1. สัญญาไปเลยว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ นำความจริงว่าใครทำอาชญากรรมอันเลวร้ายนี้..มาเปิดเผยให้เป็นที่รู้กัน และดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด...จะได้ไม่มีใครโดนกลั่นแกล้งแบบนี้ หรือ ทำได้ยากขึ้น
..2. คือ รับไปตรงๆเลยว่า คิดว่าไม่สามารถหาหนทางหาตัวคนผิดมาให้พวกเราดูได้ และเกรงว่าอาจจะถูกจัดเพิ่มจนวุ่นวายกว่านี้.
หม่อนเต่านา ให้ข้อคิดในตอนท้ายว่า ทั้งสองคนมีสัญลักษณ์และบอกเสมอว่าสู้ไม่ถอย..เป็นนักสู้..เราว่าการต่อสู้เพื่อให้ได้มา เพื่อประชาธิปไตยแบบที่ท่านทั้งสองเรียกร้องนั้น ยากเย็นเข็นใจ.. กว่า การหาคนทำคลิป..มาก..นักต่อสู้..ต้องสู้เพื่อปกป้องสิทธิพื้นฐานของตัวเองให้ได้ก่อน
ทั้งสองเสียหายแต่ “น้องโบว์”น่าจะเดือดร้อนมากกว่าเพราะความเป็นผู้หญิง และภาพลักษณ์นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ใสบริสุทธิ์ จนได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวาง
เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน จนขยับมาเป็นแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง สู้อย่างไม่กลัวเกรงกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เป็นคนมีเนื้อหาหลักการ มีเหตุผล สีหน้า แววตา มุ่งมั่น อนาคตไกล แต่พอมีข่าวคลิปฉาวกับ “เสี่ยไก่” ทุกอย่างมันแทบจะสลายในพริบตา
ไม่ใช่เพราะมีสัมพันธ์สวาท เพราะมันเป็นเรื่องรักเรื่องใคร่ ที่ปุถุชนทั่วไปมีได้ แต่บังเอิญว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ป่าวประกาศมาตลอดว่า เป็นอิสระ ปราศจากการหนุนหลัง หรือชักนำของใครในหลังม่านการเมือง
เป็นการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา นักวิชาการ ทนายความ คนรุ่นใหม่ ที่อยากเห็นการเมืองไทยเป็นประชาธิปไตย ไม่อยู่ใต้การครอบงำเผด็จการ เหล่านี้เป็นเครดิตของพวกเขาคนอยากเลือกตั้ง ที่เพียงพอต่อออกมาการเรียกร้องในทุกๆ ครั้ง
ที่ผ่านมา มีแต่การพาดพิงว่า คนนั้นคนนี้เป็นกุนซือ เป็นทุน เป็นท่อน้ำเลี้ยง แต่ไม่มีใบเสร็จสักครั้ง มันจึงทำให้ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ยังมีเครดิตในการเคลื่อนไหว
แต่ “คลิปฉาว” นี้ได้ทำให้ทุกๆ อย่างพังทลายลงไป เพราะ “วัฒนา” คือ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่หมายมั่นปั้นมือจะล้มล้างทหารในฐานะศัตรู เพื่อทวงคืนอำนาจ ขณะที่ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย โดยไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด
แม้จะยืนตรงข้ามเผด็จการเหมือนกัน อันเป็นจุดร่วม แต่การที่ “น้องโบว์” มีข่าวฉาวโฉ่ โดยมีประจักษ์พยานจนมิอาจปฏิเสธได้ มันก็กลายเป็นคำถามย้อนหลังไปยังอดีตว่า
ตกลง...ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ไม่ได้ใสสะอาด ปราศจากการครอบงำหรือวางแผนจากขั้วการเมืองใด ใช่หรือไม่?
สรุปแล้วการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา “นักการเมือง” เป็นกุนซือ ผู้วางแผน หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง จริงหรือไม่?
“กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ไม่ใช่นักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องประชาธิปไตยโดยจิตวิญญาณ หากแต่เป็นเพียง “เครื่องมือ” หรือ “ขา” อีกข้างหนึ่งของพรรคการเมืองในการต่อสู้ภาคถนนเท่านั้น ใช่หรือไม่?