MGR online - กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับผู้ต้องหาหลอกนักศึกษาสมัครเป็นตัวแทนหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม ใช้วิธีแยบยลอินสตาแกม ฝากร้าน เอาภาพถ่ายตัวแทนที่ถูกตุ๋นลงฝากขาย เมื่อมีผู้สั่งซื้อกลับได้แต่กล่องเปล่า รวมแล้วมูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท
วันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ศราวุฒิ บวรกิจประเสริฐ ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. และโฆษก บก.ปอท. ร่วมแถลงผลจับกุม น.ส.จิตรลดา ขบวนฉลาด ผู้ต้องหาหลอกนักศึกษาสมัครเป็นตัวแทนหลอกขายสินค้าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,000,000 บาท
พล.ต.ต.สิทธิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีมิจฉาชีพได้ใช้วิธีการเปิดอินสตราแกม ฝากร้าน “ประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า” ในอินสตาแกรม (Instagram) ที่มียอดผู้ติดตามจำนวนมาก โดยระบุไอดี ไลน์ (ID Line) เพื่อใช้ในการติดต่อรับสมัคร จากนั้นเมื่อมีผู้เสียหายสนใจเป็นตัวแทน มิจฉาชีพจะขอเอกสารต่างๆ อาทิ บัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม ซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ และบัตรประชาชนตัวจริงของผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเอาไว้เป็นหลักฐานและง่ายต่อการเช็กยอดเงินในการซื้อขายสินค้า
ต่อมา เมื่อผู้เสียหายเป็นตัวแทนแล้ว คนร้ายได้เรียกจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ให้มารับสินค้าแบรนเนมด์ที่จะนำไปประกาศเสนอขายมาส่งให้กับผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายถ่ายภาพสินค้าคู่กับสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน และตัวผู้เสียหายเอง เพื่อใช้ในการประกาศขายสินค้า หลังจากผู้เสียหายถ่ายรูปเสร็จ ผู้ต้องหาให้ผู้เสียหายส่งคืนสินค้า พร้อมเอกสารให้กับจักรยานยนต์รับจ้าง นำกลับไปส่งให้กับผู้ต้องหา
พล.ต.ต.สิทธิชัย กล่าวว่า วิธีการของคนร้ายได้ให้ผู้เสียหาย นำภาพที่ถ่ายไปฝากขายตามอินสตาแกรม (Instagram Page) ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เมื่อมีลูกค้าสนใจสินค้าตามที่ได้ฝากขายก็จะติดต่อมายังผู้เสียหายเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสินค้า เมื่อลูกค้าตกลงซื้อสินค้าก็จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่ผู้ต้องหาถืออยู่ จากนั้น คนร้ายได้นำสินค้าไปส่งกับบริษัทขนส่งเอกชนโดยใช้บัตรประชาชนของผู้เสียหายในการลงทะเบียนจัดส่งพัสดุ และเมื่อลูกค้าได้รับพัสดุ ปรากฏว่า ภายในกล่องไม่ใช้สินค้าตามที่ได้สั่งไป แต่เป็นขนม, กล่องใส่ของ, เทปกาว แทน ลูกค้าที่ได้สั่งซื้อแล้วไม่ได้สินค้าตามที่ตกลง
“รวมทั้งผู้ต้องหานำซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายที่ได้ไป เอาไปทำการเปิดไลน์ ใส่รูปโปรไฟล์ของผู้เสียหายแล้วนำรูปภาพสินค้าที่ถ่ายร่วมกับ บัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร และตัวผู้เสียหายไปฝากขายตามอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เมื่อลูกค้าคนใดสนใจก็จะแอดไลน์ปลอมของผู้ต้องหา เพื่อสั่งซื้อสินค้าและโอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหายที่อยู่กับคนร้าย เมื่อคนร้ายได้เงินก็จะนำของไปส่งกับบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นในการลงทะเบียนจัดส่งพัสดุ เมื่อลูกค้าได้รับพัสดุ ปรากฏว่า ภายในกล่องไม่ใช้สินค้าตามที่ได้สั่งไป แต่เป็นกล่องซุปเปอร์แวร์ ลูกค้าที่ได้สั่งซื้อแล้วไม่ได้ของ จึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย”
พล.ต.ต.สิทธิชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้เสียหาย ก็ได้เข้าแจ้งความ ต่อ พงส.กก.2 บก.ปอท. จนกระทั่งศาลอาญาได้ออกหมายจับ ที่ 2768/2561 ลง 12 ธ.ค. 61 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแกประชาชน” นอกจากนี้ วันที่ 19 ธ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่............/61 ลงวันที่ 18 ธ.ค. 61 เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาภายในบ้านเลขที่ 109/190 หมู่บ้านอินดี้ 2 บางนา กม. 7 หมู่ที่ 9 ถ.บางนา-ตราด กม.7 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ