เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนปลูกสร้างด้วยไม้ สูง 2 ชั้น ติดกันหลายหลัง ภายในชุมชนตรอกรถม้า ย่านบางคอแหลม ชาวบ้านต่างหอบข้าวของที่จำเป็นวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ไฟเผาบ้านเสียหายไปกว่า 10 หลัง ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บตกจากหลังคาบ้าน 1 ราย และสำลักควันอีก 4 ราย
เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 19 ธ.ค. ร.ต.อ.สุรเชษฐ์ วงศ์ศรีเทพ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนสวนหลวง 2 หรือ ตรอกรถม้า ระหว่างซอยเจริญกรุง 85 กับ 87 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และประสานรถน้ำดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร กว่า 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัดปลูกสร้างด้วยไม้ สูง 2 ชั้น ติดกันหลายหลัง โดยทางเข้าเป็นซอยคับแคบเข้าจากปากซอยประมาณ 100 เมตร เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงพวยพุ่งเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านภายในชุมชนต่างหอบข้าวของที่จำเป็นวิ่งหนีตายกันอลหม่าน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงลากสายยาง ใช้เครื่องสูบน้ำจากท่อระบายน้ำ ระดมหัวฉีด แต่ทว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ มีกระแสลมแรง ประกอบกับซอยที่คับแคบ รถน้ำดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เพลิงจึงลุกลามเป็นวงกว้าง ไปกว่า 10 หลังคาเรือน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงนำหัวฉีดเข้าไปฉีดน้ำภายในชุมชน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ ทั้งนี้ พบว่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บตกจากหลังคาบ้าน 1 ราย และสำลักควันอีก 4 ราย รีบนำตัวส่ง รพ.เจริญกรุง เพื่อทำการรักษา
จากการสอบถาม นายจุติภัทร เสนขันธ์ อายุ 45 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง เล่าว่า ตนพักอาศัยบ้านพักท้ายชุมชนแห่งนี้มานับ 10 ปี ยังไม่เคยพบเหตุการณ์นี้มาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุกำลังหลับนอนกับแฟนสาว อยู่บนชั่น 2 ของบ้าน ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องว่าไฟไหม้ จึงพากันวิ่งออกมาดู พบแสงเพลิงมาจากด้านหน้าชุมชนกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงพากันวิ่งหนีตายออกมาด้านนอก โดยไม่สามารถนำทรัพย์สินออกมาได้แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.โฆษิต กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เสียหายไปกว่า 10 หลัง ไม่พบประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้าอีกครั้ง รวมทั้งทำการสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป