“จักรทิพย์” สั่งฟันทัังวินัย-อาญา นายดาบยิงหนุ่มฝรั่งเศสดับ เป็น จนท.ทำผิดเองต้องโทษหนักกว่าคนธรรมดา ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

MGR online - ผบ.ตร. กำชับเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาดาบ ตร. ลุมพินี มือปืนยิงชายฝรั่งเศสดับ ยันไม่มีการปกป้องตำรวจและต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงองค์กร

วันนี้ (12 ธ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุคนร้ายบุกยิงชายชาวต่างชาติเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิท 13 ในพื้นที่ สน.ลุมพินี ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ลุมพินี ว่า เมื่อเวลา 07.20 น. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชายชาวต่างชาติเสียชีวิตภายในอาคารเทรนดี้ สุขุมวิท 13 พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ต่อมาได้พบผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบชื่อคือ นาย Marrik สัญชาติฝรั่งเศส อายุประมาณ 35 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งภายในอาคารเกิดเหตุ จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นจากเพื่อนหญิงของผู้ตาย ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปดื่มกินที่ร้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 11/1 แล้วมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนร้าย พร้อมได้ท้าชกต่อยกันภายในร้าน คนร้ายสู้ไม่ได้ และระหว่างที่ผู้ตายกลับมายังห้องพักอาคารที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ติดตามมาบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงผู้ตายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

พนักงานสอบสวน พร้อมแพทย์ ได้ร่วมกันทำการชันสูตรพลิกศพ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุ ทำการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ทำแผนที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป โดยได้แบ่งการดำเนินคดีออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. คดีที่ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต 2. คดีชันสูตรพลิกศพ

โดยในเบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบลักษณะตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ ด.ต.กันตพงษ์ ฮวดศรี ผบ.หมู่ (ป) สน.ลุมพินี โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลและจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งในส่วนของชายอีก 1 คน ที่พบเข้ามาในบริเวณสถานที่เกิดเหตุ พร้อมผู้ต้องหานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

ซึ่งในขณะนี้นั้น ทาง กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดถูกดำเนินคดีอาญา พร้อมทั้งจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้คณะกรรมการรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และตอบคำถามสังคมได้

อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้แจ้งเหตุชาวต่างชาติเสียชีวิตไปยัง กองบังการกองการต่างประเทศ (ตท.) เพื่อแจ้งเหตุไปยังสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และ แจ้งเหตุไปสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แสวงหาพยานหลักฐานเพื่อประกอบคดี เพื่อให้พนักงานสอบสวนสรุปความเห็นทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

ทั้งนี้ ได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ได้กำชับให้ต้นสังกัดตรวจสอบดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กระทำความผิดกฎหมายเสียเอง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการสอบสวน ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสีย ชื่อเสียงขององค์กร และขอยืนยันว่า จะไม่มีการปกป้องตำรวจที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีข้อสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเสียเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมไปถึงกำชับผู้บังคับบัญชา ควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด