หนุ่มตัดใจขายบ้านหนี เซ็งเพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้านนานเกือบปี

หนุ่มเซ็งประกาศขายบ้าน หลังซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ถนนแคบ บ้านตรงข้ามชอบนำรถมาจอดบนถนน จนบ้านอื่นนำรถเข้าบ้านไม่ได้ มีปากเสียงกันหลายครั้ง ตำรวจเข้าไกล่เกลี่ย คู่กรณีรับปากจะไม่จอดรถหน้าบ้านกีดขวางทางเข้า-ออกบ้านหลังอื่นอีก

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 61 ที่หมู่บ้านพบสุข ซอย 3 ซอยประเสริฐอิสลาม ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นางพรรณี วิริยาปภากร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/169 และ นายมานิตย์ โสภาเลิศ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/170 ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากบ้านตรงข้ามที่นำรถมาจอดหน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 75/146 และทำให้รถของบ้านทั้ง 2 หลังเข้า-ออกลำบาก เนื่องจากถนนมีความกว้างประมาณ 5 เมตร จนบางครั้งมีปากเสียงกันหลายครั้ง จนทำให้ นายมานิตย์ โสภาเลิศ เจ้าของบ้านเลขที่ 75/170 ติดประกาศขายหรือให้เช่าบ้านหนี โดยเรื่องนี้ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ

จากกรณีดังกล่าว นางรัตนา สุขสงวน อายุ 60 ปี นางมัณฑนา ขุยรักขิต อายุ 65 ปี กรรมการหมู่บ้าน และ ร.ต.อ.สวิช สืบเพ็ง ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ และไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว ซึ่งผลการพูดจา นางกิ่งแก้ว พรงูเหลือม เจ้าของบ้านที่จอดรถหน้าบ้าน ยืนยันว่า จะเคลียร์ของใช้ในโรงจอดรถทั้งหมด เพื่อให้รถของที่บ้านสามารถเข้าไปจอดได้ โดยจะไม่จอดรถหน้าบ้านกีดขวางทางเข้า-ออกบ้านหลังอื่นอีก

นางพรรณี วิริยาปภากร ผู้เสียหายเจ้าของบ้านเลขที่ 75/169 กล่าวว่า ความเดือดร้อนที่รับเป็นกรณีที่เขาจอดรถหน้าบ้านเขา แต่เราไม่สามารถที่จะนำรถเข้าบ้านได้ ทางตนได้ไปบอกให้เขาเอารถเข้าบ้านเขาได้ไหม แต่เขาบอกว่าเขาจอดหน้าบ้านเขา เขาทำแบบนี้ทุกวัน ทำแบบนี้มาประมาณครึ่งปี ตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเขา แต่ข้างบ้านตน เวลาเราไปเรียกให้เขาถอดรถก็จะมีการพูดจามากมาย โวยวาย ตนไม่ได้อยากไปเรียกเขา แต่เราถอยรถออกไม่ได้ ควรนำรถไปจอดในบ้านมันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

นายมานิตย์ โสภาเลิศ ผู้เสียหายเจ้าของบ้านเลขที่ 75/170 กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากตนไม่สะดวกที่จะนำรถเข้า-ออกบ้าน ปัญหาเกิดขึ้นมาเกือบปี หมู่บ้านนี้ถนนมันแคบ หน้าบ้านตนและบ้านคู่กรณีประตูตรงกัน เขานำรถมาจอดหน้าบ้านเขา ทำให้ตนเลี้ยวเข้า-ออก ไม่ได้ต้องไปเรียก แรกๆ ก็ใช้เวลาเรียกไม่นาน พอผ่านไปนานเข้าก็ช้ากว่าจะมาถอย แต่เหตุผลที่แจ้งว่าทำไมออกมาช้า เนื่องจากกินข้าว อาบน้ำ ทำธุระ เขาจะออกมาขยับรถช้าจนเราทนไม่ไหว เคยพูดคุยมากกว่า 10 ครั้ง ทั้งคุยดี และทะเลาะด้วย บางครั้งเราทนไม่ได้ก็เปลี่ยนไปใช้รถ จยย. แต่บางครั้งเราต้องใช้รถยนต์ ถ้าค่อยๆ ขยับก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ เขารับปากว่าจะนำรถเข้าบ้านก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ตนก็ยื่นยันว่าจะขายบ้านอยู่ แต่ที่ต้องมาจัดการปัญหานี้ เพราะคนที่มาซื้อบ้านต่อจะเกิดปัญหาตามมาแบบตน ตนจึงต้องเคลียปัญหานี้ก่อน

ด้าน นางกิ่งแก้ว พรงูเหลือม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/146 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ตรงข้าม และมีกรณีพิพาทกับบ้านทั้ง 2 หลัง ซึ่งเจ้าของบ้านอยู่กับสามี 2 คน เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ ด้านหน้าบ้านที่เป็นโรงจอดรถ มีสิ่งของวางอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปจอดด้านในได้ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องรถลูกสาวจอดหน้าบ้านขวางเขาจริง เกิดปัญหามาประมาณ 6 เดือนแล้ว อาทิตย์หนึ่งลูกสาวจะมาครั้งหนึ่ง มากินข้าวกับพ่อแม่ ลูกสาวจอดไม่นาน 2-3 ชม. รถเขาออกไม่ได้ก็มาแจ้งทุกครั้ง เขาเดินมาบอกเราก็ย้ายให้ แต่ที่มีปัญหานี่ตนก็จะให้ลูกนำเข้าจอดในบ้าน ก่อนหน้านี้ ตนไม่มีปัญหา หลังจากนี้ จะเคลียร์พื้นที่และเอาของหน้าบ้านออกเพื่อเอารถเข้าบ้าน

จากการสอบถาม นางรัตนา สุขสงวน กรรมการหมู่บ้าน กล่าวว่า การจอดรถหน้าบ้านตนเองมันสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน มันต้องอยู่ร่วมกัน ตนเคยได้รับแจ้งเรื่องนี้ต้องมาคุยกัน ตนเคยบอกแล้วถ้าลูกบ้านร้องแต่ก็ต้องทำ ต่อไปนี้ก็ต้องช่วยกัน เพื่อนบ้านกันต้องมีน้ำใจให้กัน บ้านที่นำรถมาจอดหน้าบ้านก็สัญญาแล้วว่าจะแก้ไขไม่มาจอดหน้าบ้านอีก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เสียหายทั้ง 2 หลัง และบ้านคู่กรณี เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว โดยหลังเจรจาได้มีการตั้งข้อกล่าวหาว่า ก่อความเดือดร้อนรำคาญและจอดรถกีดขวาง เปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และขอโทษเพื่อนบ้านที่ได้รับปัญหา และสัญญาว่าจะไม่นำรถมาจอดหน้าบ้านอีก