หญิงอุ้มลูกวัย 1 ขวบเดินตลาดศรีปากเกร็ด สะลึมสะลือไม่รู้สึกตัว เดินตามคนร้ายไปหลังถูกสะกิดที่หลัง มารู้ตัวอีกทีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง และน้ำหนัก 1 สลึงของลูกหายไปจากคอ
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Poona Sasiprapa หลังได้โพสต์ภาพและข้อความว่า “ใครเคยเห็นอีป้า 2 คนนี้บ้าง ป้ายยาเอาทองไป 2 เส้น #เหตุเกิดที่ปากเกร็ด ขนาดอยู่ที่คอเด็กมึงยังเอาไป..เลวมาก #ใครรู้จักหรือพบเจอติดต่อกลับด้วยนะคะ” พบ น.ส.ริน (นามสมมติ) เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว สอบถามข้อมูลทราบว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 61 เวลา 11.00 น. มีคนร้ายเป็นหญิงจำนวน 2 คนทำทีมาพูดคุยด้วยและเดินตามที่บริเวณร้านขายรองเท้าข้างทาง ใกล้เคียงตลาดศรีปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นผู้เสียหายก็ไม่รู้สึกตัว ไม่ทราบว่าดินตามคนร้ายไปไหนบ้าง มารู้สึกตัวอีกครั้งผู้เสียหายและลูกสาวอายุ 1 ขวบไปยืนอยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังห้างค้าปลีกแห่งหนึ่งในซอยวัดสนามเหนือ และพบว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง และน้ำหนัก 1 สลึงของลูกได้หายไปจากคอ จึงได้ไปแจ้งความและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากจุดที่ผู้เสียหายยืนซื้อรองเท้า จนทราบว่าทั้งสองคนเป็นคนร้าย โดยมอบภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด
ภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครปากเกร็ด ตรงข้ามร้านขายทองรูปพรรณ ที่ด้านหน้ารถประจำทางสาย 166 จับภาพผู้เสียหายซึ่งกำลังอุ้มลูกสาวได้เมื่อเวลา 11.00 น. ขณะกำลังยืนเลือกซื้อรองเท้าจากร้านข้างทาง ข้างๆ กันมีหญิงรูปร่างท้วม ผมยาว สวมแว่นตากันแดด สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขาห้าส่วนสีดำ กำลังเลือกซื้อรองเท้าเช่นกัน ห่างกันประมาณ 1 เมตร พบหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมผ้าปิดปากยืดกอดอกอยู่ จากนั้นกล้องตัวที่ 2 ของเทศบาลนครปากเกร็ดภายในซอยวัดสนามเหนือจับภาพคนร้ายทั้งสอง และผู้เสียหายซึ่งอุ้มลูกเดินตามได้เมื่อเวลา 11.03 น. คนร้ายทั้งสองเดินนำหน้าใช้มือปิดบังใบหน้า โดยมีผู้เสียหายอุ้มลูกเดินตามเข้าไปภายในซอยดังกล่าวซึ่งเป็นทางเข้าที่จอดรถห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง จากนั้นกล้องตัวที่ 3 เป็นกล้องของห้างค้าปลีกดังกล่าวจับภาพคนร้ายและผู้สียหายที่เดินตามกันได้เมื่อเวลา 11.06 น. โดยเดินผ่านประตูด้านหลังห้างดังกล่าวเพื่อไปลานจอดรถ ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด
จากการสอบถาม น.ส.ลี (นามสมมติ) อายุ 53 ปี แม่ค้าขายรองเท้าทราบว่า หลังจากดูภาพพบว่าร้านที่ผู้เสียหายมายืนเลือกรองเท้าเป็นร้านตน แต่ตนจำบุคคลทั้งสองไม่ได้เนื่องจากลูกค้าเยอะ และปกติตนก็ไม่ได้ขายตรงนี้ประจำ ปกติไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ก็ไม่รู้จะเตือนลูกค้ายังไงเพราะมิจฉาชีพก็เป็นลูกค้าเหมือนกัน
ด้าน น.ส.ริน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 11.00 น.ได้ออกมาซื้อของโดยอุ้มลูกสาวมาด้วย จากนั้นได้เดินไปห้างค้าปลีก หลังเสร็จธุระกำลังจะกลับบ้านที่อยู่ในซอยวัดกู้ จึงได้เดินข้ามถนนมาฝั่งตลาดที่อยู่ตรงข้ามห้างเพื่อไปขึ้นวินจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อมาถึงร้านรองเท้าก็เลือกดูเพื่อจะซื้อแต่ไม่มีขนาดที่ใส่ได้ ซึ่งคนร้ายที่เลือกรองเท้าก็พูดกับตนว่าไม่รู้จะใส่ได้ไหม ตนก็บอกไปว่าสวยดี แค่นั้น ขณะที่กำลังเดินหันหลังเพื่อจะกลับบ้าน มีคนมาสะกิดที่ด้านหลังตนจึงได้หันไป จากนั้นตนจำได้แบบสะลึมสะลือเหมือนเดินตามคนร้ายทั้งสองและข้ามถนนไปยังเกาะกลางและจำอะไรไม่ได้ ไปจำได้อีกทีก็ไม่ทราบว่าตนไปอยู่ที่ลานจอดรถได้อย่างไร เมื่อสำรวจตนเองพบว่าสร้อยคอทองคำของตนน้ำหนัก 2 สลึงหายไป และสร้อยคอทองคำของลูกสาวน้ำหนัก 1 สลึงหายไป จึงได้โทรศัพท์บอกแฟนและได้มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดกัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบเพื่อใช้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป