xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกชายขุนนิรันดรชัย” เจ้าของที่ดินนับหมื่นล้านบาท ฟ้องมรดกพี่ชายต่างมารดา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - อดีตรองเจ้ากรมยุทธการทหารบก “ลูกชายขุนนิรันดรชัย” เจ้าของที่ดินรายใหญ่ใน กทม. ฟ้องแพ่ง พี่ชายต่างมารดาจัดการมรดกไม่ชอบ ขายที่ดินย่านสาทร ดอนเมือง หลายหมื่นล้าน



วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.สรภฎ นิรันดร อายุ 74 ปี อดีตรองเจ้ากรมยุทธการทหารบก บุตรชาย ขุนนิรันดรชัย (พ.ต.สเหวก นิรันดร เจ้าของที่ดินย่านธุรกิจใน กทม.กว่า 90 แปลง มูลค่าหลายหมื่นล้าน ) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธรรมนูญ นิรันดร พี่ชายต่างมารดา, นายธรรมรัชต์ นิรันดร บุตรชายนายธรรมนูญ, นางเยาวนี นิรันดร บุตรสาวนายธรรมนูญ และ บริษัท 31 สาธร จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 เรื่อง ขอให้เพิกถอนนิติกรรม ให้แบ่งทรัพย์มรดกจำนวนทุนทรัพย์ 59,927,678 บาท และไม่ให้เป็นผู้รับมรดก

โจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า โจทก์เป็นบุตรของ พ.ต.สเหวก นิรันดร หรือ ขุนนิรันดรชัย กับ นางแสงอรุณ สิงหะเสนี ภรรยา ที่มิได้จดทะเบียนสมรส แต่โจทก์บุตรที่บิดารับรองแล้ว จึงเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของขุนนิรันดรชัย ตามกฎหมาย โดย ขุนนิรันดรชัย มีภรรยาทั้งหมด 4 คน มีบุตรรวม 13 คน แต่เดิม คุณหญิง จรูญ นิรันดร ภรรยาที่จดทะเบียนกับขุนนิรันดรชัย จะเป็นผู้จัดการมรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดกที่ดินทั้งหมด ตามคำสั่งศาลแพ่ง แต่ต่อมาปรากฏว่า คุณหญิง จรูญ ผู้จัดการมรดกได้เสียชีวิตลงเสียก่อน โดยก่อนเสียชีวิตคุณหญิง จรูญ ได้มอบหมายแต่งตั้งให้ นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท ดังนั้น จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดก แต่ในการจัดการทรัพย์มรดกของขุนนิรันดรชัย ปรากฏข้อเท็จจริงในเวลาต่อมาว่า นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 มิได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยร่วมกับจำเลยที่ 2, 3, 4 กระทำความผิดเบียดบังยักยอกเอาทรัพย์มรดกเป็นของตนหรือบุคคลที่สาม กล่าวคือ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2560 นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 2 แปลง ย่านถนนพระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นของทรัพย์มรดกที่ยังจัดการแบ่งทรัพย์มรดกไม่เสร็จสิ้นให้กับบุตรของจำเลยที่ 1 คือ นายธรรมรัชต์, นางเยาวนี และ บริษัท 31 สาธร จำกัด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ซึ่งเป็นทายาท จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว และกลับมาเป็นทรัพย์มรดกของตระกูล เพื่อแบ่งปันให้แก่โจทก์ด้วย จำนวน 1 ใน 14 ส่วนของทรัพย์มรดกทั้งหมด

ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2560 นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 ได้แสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับจำเลยที่ 4 กล่าวคือ นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินย่านสาทร อ.บางรัก กทม. จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 2 งาน 18 ตารางวา ซึ่งเป็นทรัพย์มรดกที่ยังจัดการแบ่งทรัพย์มรดกไม่เสร็จสิ้นให้กับจำเลยที่ 4 เพื่อชำระค่าหุ้น จึงขอให้ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว และให้กลับมาเป็นทรัพย์มรดกของตระกูล

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2559 นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 229 ย่านดอนเมือง จำนวน 187 ไร่ ซึ่งเป็นทรัพย์มรดกที่ยังแบ่งไม่เสร็จสิ้น ให้แก่บุคคลภายนอกเป็นเงินจำนวน 647,015,000 บาท นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 จึงต้องนำเงินมาแบ่งปันให้แก่โจทก์ด้วย คิดเป็นเงินจำนวน 23,107,678 บาท

การกระทำของนายธรรมนูญ, นายธรรมรัชต์, นางเยาวนี จำเลยที่ 1-3 ตลอดจนกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท 31 สาธร จำกัด ทำให้กระทบต่อประโยชน์ของทายาทคนอื่น จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษามิให้จำเลยได้รับมรดกของขุนนิรันดรชัย

ภายหลัง พล.ต.สรภฏ ได้ยื่นฟ้องแล้ว ศาลแพ่งได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีแพ่ง หมายเลขดำ พ.6550/2561 เพื่อพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 18 ก.พ.2562 เวลา 13.30 น.

พล.ต.สรภฏ กล่าวว่า ปัจจุบัน นายธรรมนูญ จำเลยพี่ชายต่างมารดาตน ซึ่งเป็นผู้จัดการกองมรดก นั้น อายุ 87 ปี แล้ว และมีอาการป่วยต้องมีคนคอยดูแลช่วยเหลือ ซึ่งทรัพย์มรดกของขุนนิรันดรชัยที่ยังไม่ได้จัดการแบ่งให้ทายาทนั้น ที่สืบพบในตอนนี้ ราคาประเมินประมาณ 40,000 ล้านบาท อยากจะให้ทายาททุกคนได้รับการแบ่งมรดกไปตามความเหมาะสม จึงมาขอพึ่งบารมีศาลในการจัดแบ่งกองมรดกของตระกูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขุนนิรันดรชัย หรือ พ.ต.สเหวก นิรันดร เป็นหนึ่งในคณะราษฎรที่มีบทบาทสำคัญหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475





กำลังโหลดความคิดเห็น