ข่าวลึกปมลับ : “สมคิด บุญถนอม”คัมแบ๊ค โผล่นั่งที่ปรึกษา กกต. เพื่อไทยเสียวโดนยุบ

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ตอน “สมคิด บุญถนอม”คัมแบ๊ค โผล่นั่งที่ปรึกษา กกต. เพื่อไทยเสียวโดนยุบ



สูตรที่ให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรค ภูมิธรรม เวชชยชัย ทำหน้าที่เลขาฯ และคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแม่ทัพสู้ศึกเลือกตั้ง จึงเป็นสูตรลงตัว ที่ทุกฝ่ายในเพื่อไทย โอเค เห็นด้วย

แรงกระเพื่อมจากบางกลุ่มก็สะเทือนจึ้นบ้าง อพยพหนีไปตั้งพรรคใหม่ อ้างเป็นพรรคอะไหล่พรรคสำรองให้กับเพื่อไทย เพราะขืนทนอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีโอกาสรุ่งทางการเมือง

ตอนนี้ที่โผล่มาแล้ว มีพรรค “เพื่อธรรม” รู้กันว่าเป็นพรรคการเมืองของเจ๊แดง เยาวภา ชินวัตร จับมือกับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ตั้งขึ้นมา เจ๊แดงยังสู้ไม่ถอย อยากเติบโตมีอำนาจของตัวเอง

และบวกกับไม่กินเส้นกับเจ๊หน่อย สุดารัตน์ ขณะที่เจ๊หน่อยได้รับความไว้วางให้กุมบังเหียนเพื่อไทย จึงไม่มีพื้นที่ให้เจ๊แดงยืน ต้องอพยพตัวเองไปสร้างบ้านใหม่ กับกลุ่มวังบัวบาน

อีกพรรคอะไหล่ที่เปิดตัวเปิดหน้าไปแล้ว ก็เป็นพรรค”เพื่อชาติ” ของยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตมือขวาทักษิณ พรรคมีแกนนำเสื้อแดงคนดังอย่างนาย จตุพร พรหมพันธุ์ มาร่วมงานด้วย ซึ่งโดยแนวทางพรรคเพื่อชาติก็ยังไม่มีใครแน่ใจว่า จริงๆแล้วเป็นพรรคอะไหล่ขั้วไหน

คนที่อยู่เพื่อไทยหลายคนยังผวาจะเกิดแฮททริค ยุบพรรครอบที่สามกับเพื่อไทย เพราะสถานการณ์มันชี้ไปทางจะโดนทุบแน่

ยิ่งเมื่อดูรายชื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.และทีมงานหน้าห้อง กกต.ทั้งห้าคน ก็เจอหลายชื่อ เป็นบุคคลที่เคยปราบฝ่ายระบอบทักษิณ และเพื่อไทย นั่งทำงานในตึกกกต.กันหลายคน
 
โดยเฉพาะมือพิฆาตตัวจริง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผบช.ตำรวจภูธรภาค5 ที่เป็นคนสืบสวนสอบสวนคดีซื้อเสียงยงยุทธ ติยะไพรัช จนนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน ปัจจุบันได้มาทำงานให้กกต. ยุคนี้ด้วย

ตำแหน่งในกกต. ของ พล.ต.ท.สมคิดตอนนี้ ไม่เล็กภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็สำคัญ คือเป็นที่ปรึกษา มือทำงาน หน้าห้องคนสำคัญของ ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต.จากศาลฎีกา

สำหรับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 เป็นน้องชายของพลเอกสมเจตน์ บุญถนอม แกนนำสนช.สายอดีตทหาร โดยพลเอกสมเจตน์เริ่มต้นเข้าสู่การเมืองด้วยการเป็นสนช.รุ่นปี 2549 ในยุคคมช.ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ร่วมเป็นสมาชิกในสภาวันนั้นอยู่ด้วย

และต้องไม่ลืมว่า กกต.ทั้งห้าคน ล้วนผ่านการเห็นชอบมาจากสนช.ชุดนี้ ซึ่งรายชื่อที่ส่งมาจากคณะกรรมการสรรหา และที่ประชุมศาลฎีกา มีด้วยกันเจ็ดชื่อ แต่สนช.เห็นชอบแค่ห้าชื่อเท่านั้น ถูกตีตกไปสองชื่อ

หนึ่งในห้าชื่อ ก็มี ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่เคยเป็นแกนนำตุลาการในการล่าชื่อคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมตอนยุครัฐบาลเพื่อไทย

การที่ ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ตั้ง “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม" อดีตจเรตำรวจ อดีต ผบช.ตำรวจภูธรภาค 5 มาเป็น ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ทีมงานหน้าห้อง
คนเพื่อไทย พอรู้ข่าว เลยหวั่นไหว ไข้ขึ้นกันทั้งพรรค

เพราะคนเพื่อไทยเกือบทั้งพรรค ล้วนเป็นอดีตคนของพรรคพลังประชาชน ที่จดจำและรู้ความไม่ธรรมดาในการทำงานสืบสวนสอบสวนของ พล.ต.ท.สมคิดมาเป็นอย่างดี กับการทำคดีการทุจริตการซื้อเสียงที่จังหวัดเชียงราย ตอนเลือกตั้งปี 50

จนมีการเอาผิด ยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคพลังประชาชนเวลานั้น จนนำไปสู่การลงโทษความผิดยงยุทธในความผิดส่วนตัวและเอาผิดกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และพรรคพลังประชาชน ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนในเวลาต่อมา

เรื่องดังกล่าว ก็คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จนต่อมา พลังประชาชน กลายเป็นพรรคเพื่อไทย ต้องไปเป็นฝ่ายค้านและ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นรัฐบาล โดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี

ที่ผ่านมา กกต.จับตาเรื่องการเคลื่อนไหวของฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพราะขาดคุณสมบัติ มาครอบงำแทรกแซงพรรคเพื่อไทย อันเป็นความผิดตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ หลังจากที่เคยมีการยื่นเรื่องให้กกต.ตรวจสอบ

เน้นที่กรณีคลิปทักษิณ คุยกับแกนนำ อดีตส.ส.เพื่อไทย ที่รวมตัวกันที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง สำนวนนี้มีการนำเข้าที่ประชุมใหญ่กกต.มาแล้วรอบหนึ่ง เพื่อรายงานความคืบหน้า แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติใดๆออกมา

โดยเรื่องคลิปทักษิณ ฝ่ายเพื่อไทยคงไม่ค่อยกังวลใจมากนัก ว่าจะถึงขั้นส่งผลให้มีการยุบพรรค เพราะเชื่อว่า ไม่น่าจะมีน้ำหนักพอให้กกต.ตั้งแท่นเอาผิดยุบพรรคได้

แต่ที่กังวลน่าจะเป็นเรื่องตอนช่วงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นมากกว่า ด้วยการที่พรรคจะส่งคนลงทั้งหมด 350  เขตทั่วประเทศ หากมีการไปทำอะไรที่หมิ่นเหม่ เข้าข่ายทำผิดกฎหมาย ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งแบบตั้งใจ ไม่ตั้งใจ รู้เท่าไม่ถึงการณ์

เพื่อไทย ก็อาจสุ่มเสี่ยงจะโดนยุบรอบสามก็เป็นไปได้

เพราะกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้งส.ส. กฎหมายกกต. ที่ใช้ปัจจุบัน เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า พลาดมาเมื่อไหร่ มีสิทธิ์ตายหมู่กันหมดทั้งพรรคเพื่อไทย

ด้วยเหตุนี้ เพื่อป้องกันอะไรไว้ล่วงหน้า เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีข่าวเรื่องการตั้งพรรคสำรอง พรรคนอมินี พรรคอะไหล่ของทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยรองรับไว้ กรณีหากเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะช่วงหลังเลือกตั้ง

เจอคนกล้าอย่างฉัตรไชย จันทร์พรายศรี เรียกมือพิฆาต พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กลับมานั่งเป็นมือสืบสวนสอบสวนใน กกต.ชุดนี้ คนเพื่อไทย จะไม่กลัวจะเกิดแฮททริคยุบเพื่อไทย ได้อย่างไร ?