xs
xsm
sm
md
lg

ปปง.ยึดเงินกลุ่มผู้บริหาร สกสค.คืนเงินผู้เสียหายกว่า 500 ล้าน ตามยึดทรัพย์ต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - สำนักงาน ปปง.แถลงผลยึดเงินกลุ่มผู้บริหาร สกสค.โกง คืนเงินผู้เสียหายกว่า 500 ล้านบาท พร้อมแจ้งข้อแจ้งข้อหาบริษัท บิลเลี่ยนฯ และขบวนการที่เกี่ยวข้อง ฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน

วันนี้ (18 ต.ค.) พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า จากกรณีที่สำนักงาน ปปง. ได้รับเรื่องกรณีผู้บริหารกองทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อกองทุนของ สกสค. มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท

พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และความผิดฐานฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3(5) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

จึงได้เสนอคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อมีมติยึดหรืออายัดทรัพย์สินของ นายเกษม กลั่นยิ่ง กับพวก จำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ เงินฝากในบัญชีธนาคาร และหุ้นของบริษัท ต่อมา ได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง ให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสกค.) ตามนัยมาตรา 49 วรรค 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กระทั่ง เมื่อวันที่ 16 ต.ค.61 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งตามคดีหมายเลขดำ ฟ.96/2558 กรณีการกระทำของ นายเกษม กลั่นยิ่ง กับพวก เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐอันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มีทรัพย์สินจำนวน 84 รายการ รวมเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกผล เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดให้นำไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ สกสค.

“อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งได้เคยมีคำสั่งตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ.111/2558 หมายเลขคดีแดงที่ 145/2559 ให้ทรัพย์สินจำนวน 20 รายการ มูลค่าทรัพย์สินรวม 123,743,932.21 บาท พร้อมดอกผล ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ สกสค. มาแล้ว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่ศาลมีคำสั่งให้นำไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ สกสค. เป็นเงินจำนวนประมาณ 600,000,000 บาทเศษ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ในการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่งคงของประเทศชาติต่อไปภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า “ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดินโดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน” ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งสายด่วน ปปง. 1710หรือแจ้งได้ที่ mail@amlo.go.thหรือผ่านทางคิวอาร์โค้ด” พล.ต.ต.ปรีชา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น