xs
xsm
sm
md
lg

ส่งฟ้องพ่อ “น.ต.ศิธา ทิวารี” อดีต กก.บริหารพรรค ทรท.พร้อม “กาญจนาภา-วันชัย” ร่วมฟอกเงินแบงก์กรุงไทย 31 ต.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR online - อัยการนัดส่งตัวฟ้อง “มานพ ทิวารี” บิดา “น.ต.ศิธา ธิวารี” อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พร้อม “กาญจนาภา-วันชัย หงส์เหิน” คดีร่วมฟอกเงินแบงก์กรุงไทย 31 ต.ค.นี้

วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมในคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน กรณีอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบ ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ซึ่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 อัยการแถลงผลการสั่งคดีที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนไว้เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2561 กล่าวหา นางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนาภา ผู้ต้องหาที่ 1, นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัว คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องหาที่ 2, นายวันชัย หงษ์เหิน สามีของนางกาญจนาภา ผู้ต้องหาที่ 3 และ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ที่อัยการได้เห็นควรสั่งฟ้องนางกาญจนาภา ผู้ต้องหาที่ 2 กับ นายวันชัย ผู้ต้องหาที่ 3 กรณีรับโอนเช็ค 26 ล้านบาท สั่งฟ้อง นายพานทองแท้ ผู้ต้องหาที่ 4 กรณีรับโอนเช็ค 10 ล้านบาท และไม่ฟ้องนางเกศินีทั้งสองกรณี

โดยได้ส่งฟ้องนายพานทองแท้ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้วในวันดังกล่าว ส่วนนางกาญจนาภา กับ นายวันชัย ยังไม่มารายงานตัว จึงนัดให้ทั้งสองมาฟังคำสั่งฟ้อง พร้อมนำตัวไปฟ้องในวันที่ 18 ต.ค. 2561 นั้น

นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ในวันเดียวกันกับที่มีความเห็นและคำสั่งผู้ต้องหากับพวกรวม 4 คนดังกล่าว คณะทำงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ก็ได้มีความเห็นและคำสั่งฟ้อง นายมานพ ทิวารี ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินเช่นกัน แต่ในวันนัดฟังคำสั่งวันที่ 10 ต.ค. 2561 นายมานพ ผู้ต้องหา รวมทั้ง นางกาญจนาภา และ นายวันชัย ไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัด พนักงานอัยการจึงไม่สามารถฟ้องนายมานพ, นางกาญจนาภา และ นายวันชัยในวันดังกล่าวได้ อัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานคดีพิเศษ จึงแจ้งให้นายมานพ, นางกาญจนาภา และ นายวันชัย มาพบพนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลในวันที่ 31 ต.ค. 2561 เวลา 10.00 น.

มีรายงานว่า สำหรับ นายมานพ ทิวารี เป็นบิดาของ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเดิมเป็นผู้ต้องหารวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ กับพวกรวม 13 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน เกี่ยวกับการโอนและรับโอนธุรกรรมทางการเงินที่ได้จากการอนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบ เป็นจำนวนหลายรายการ ซึ่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องนายวิชัยกับพวก ผู้โอน และฟ้องต่อศาลแล้ว แต่เนื่องจากข้อเท็จจริงทางคดี นายมานพ อยู่ในกลุ่มผู้รับโอน พนักงานอัยการจึงมีคำสั่งให้รวมการพิจารณาสั่งของผู้ต้องหารายนี้ไปพร้อมกับกลุ่มผู้รับโอน


กำลังโหลดความคิดเห็น