สน.โชคชัย ตามจับผู้ต้องหาอายุ 18 ปี คาร้านเกมย่านโชคชัย 4 ตระเวนลักทรัพย์ตามร้านค้า พร้อมของกลางกระเป๋าสะพาย 1 ใบ เสื้อผ้าสวมใส่ในวันก่อเหตุ และเงินสดจำนวน 6,500 บาท เผย เคยถูกจับคดีลักทรัพย์เมื่อช่วงต้นปี 60 ที่ผ่านมา กลับมาก่อเหตุซ้ำเพราะติดเกม
เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย ว่า พ.ต.ท.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส.สน.โชคชัย ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย จับกุมตัว นายภูวรินทร์ หรือ โอ๊ต กุนอก อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ตามร้านค้า พร้อมของกลาง ค้อน กรรไกร ไขควง 2 อัน กระเป๋าสะพาย 1 ใบ เสื้อผ้าสวมใส่ในวันก่อเหตุ และเงินสดจำนวน 6,500 บาท โดยสามารถจับกุมได้ภายในร้านเกมแห่งหนึ่งในย่านโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 ต.ค. เวลาประมาณ 06.30 น. ตำรวจ สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ภายในร้านกาแฟอเมซอน สาขาบิ๊กซีเชลเตอร์ แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม.จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่นหนึ่งคน อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อคลุมสีเข้ม สะพายกระเป๋าสีส้ม กางเกงขาสั้นสีเข้ม สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวดำ ได้งัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 1,000 บาท และเสื้อยืดสีดำ 1 ตัว โดยกล้องระบุก่อเหตุเวลาประมาณ 01.10 น. ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. ตำรวจ สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดร้านอาหารแซ่บคลาสิค ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับร้ายที่คนร้ายก่อเหตุไปก่อนหน้านี้ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 3,500 บาท จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายได้งัดเข้าไปในร้านเวลาประมาณ 02.00 น. ซึ่งมีรูปพรรณ และเป็นคนๆ เดียวกันกับที่ก่อเหตุร้านกาแฟอเมซอนรายแรก กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจโชคชัย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ภายในร้านผัดไทยท่องโลก ห้างบิ๊กซีเชลเตอร์ โดยได้เป็นเงินสด 2,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายรายเดียวกันอีก
จากนั้นทาง พ.ต.ท.กันตภณ จึงได้เรียกประชุมวางแผนออกสืบสวนติดตามคนร้าย ตลอดจนตรวจสอบแผนประทุษกรรม หนำซ้ำเมื่อทำการตรวจลายนิ้วมือ พบว่า ที่เกิดเหตุทั้ง 3 แห่งตรงกัน กระทั่งสืบทราบว่า คนร้าย คือ นายภูวรินทร์ หรือ โอ๊ต ซึ่งเคยถูก ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย จับกุมคดีลักทรัพย์เมื่อช่วงต้นปี 60 ที่ผ่านมา ต่อมาทางตำรวจได้เบาะแสว่าคนร้ายรายนี้ชอบเล่นเกมในร้านเกมแห่งหนึ่ง ในย่านซอยโชคชัย 4 จึงนำกำลังไปตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดยยังสวมใส่เสื้อผ้าในวันที่ลงมือก่อเหตุ และยังพบเงินสดจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าสะพายที่สะพานอยู่ จึงควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.โชคชัย
จากการสอบสวน นายภูวนรินทร์ ให้การยอมรับสารภาพว่า เงินที่พบนี้เป็นเงินได้มาจากการลักมาจากร้านทั้ง 3 แห่ง โดยก่อนหน้านี้ ตนเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้วไม่ได้เรียนต่อ และชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ระยะหลังไม่ได้เงินจากทางบ้าน รวมทั้งไม่มีงานทำ เนื่องจากตกงานเคยเป็นลูกจ้างขายเสื้อผ้า ร้านย่านลาดพร้าว แล้วร้านไม่จ่ายค่าจ้าง อยากหาเงินมาเล่นเกม จึงคิดหาวิธีหาเงินด้วยวิธีนี้ เมื่อได้เงินมาจะนำไปเล่นเกมจนหมดแล้วกลับมาก่อเหตุซ้ำ ทุกครั้งมักจะเลือกลงมือร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านกาแฟ ในช่วงกลางดึกและลับตาคน
ทั้งนี้ เจ้าตัวยังรับสารภาพอีกว่า นอกจากลงมือก่อเหตุทั้ง 3 ร้านแล้ว เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงมือก่อเหตุงัดฝ้าเพดาจากหน้าร้าน กาแฟ jp หน้าทางเข้าโรงพิมพ์คุรุสภา ถนนลาดพร้าว แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม.แล้วได้ปีนขึ้นมาทางช่องฝ้าเพดานที่งัดเข้ามาในร้าน ก่อนรื้อค้นลื้นชักบริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงิน แล้วได้งัดเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ จนพังได้เงินสดจากในเครื่องไปจำนวน 5,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เชื่อว่าคนร้ายรายนี้จะก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งนี้ หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสามารถติดต่อ สน.โชคชัย ได้ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป