MGR Online - กลุ่มพนักงานการท่าเรือฯ ร้องดีเอสไอเอาผิดอดีตผู้บริหารแจ้งความเท็จ กล่าวหาพนักงานไม่ได้ทำงานวันหยุดแต่เบิกเงินค่าโอที จนศาลฎีกาตัดสินให้จ่ายเงินเพราะทำงานล่วงเวลาจริง
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ พร้อมพนักงานการท่าเรือประมาณ 100 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ ร.ต.ทรงธรรม จันทรประสิทธิ์ อดีต (ขณะเกิดเหตุ รักษาการผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) และนายโกมล ศรีบางพลีน้อย (ขณะเกิดเหตุ รองผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ปัจจุบันเป็น ผอ.การท่าเรือกรุงเทพ) หลังร่วมกันแจ้งความเท็จและร่วมกันให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 4/2557 ว่าพนักงานการท่าเรือประมาณ 1,200 ราย ทำการเบิกจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดจนเกิดความเสียหาย โดยมี ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง
นายกฤษฎาเปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อปี 2560 ผู้บริหารทั้ง 2 รายร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้เอาผิดต่อพนักงานการท่าเรือ 1,200 คน ทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลาทำงานวันหยุด (โอที) ประมาณ 3,000 ล้านบาท ในช่วงระหว่างปี 2545-2555 ก่อนดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ต่อมาช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2561 ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่พนักงานการท่าเรือผู้ถูกกล่าวหา ประมาณ 379 คน จากพนักงานทั้งหมด 1,200 คน จำนวนเงินทั้งสิ้น 80 ล้านบาท และมีการออกเช็ครับเงินจากศาลเพื่อเป็นหลักฐาน แสดงว่าพนักงานการท่าเรือสุจริต ดังนั้น พนักงานการท่าเรือที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดทำงานล่วงเวลาจริง พร้อมแจ้งความกลับผู้บริหารดังกล่าวและขอให้ช่วยรับเรื่องเป็นคดีพิเศษเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่พนักงานการท่าเรือ นอกจากนี้ ในส่วนพนักงานการท่าเรือรายอื่นๆ นั้น ศาลจะทยอยมีคำพิพากษาออกมาเป็นระยะ
ด้าน ร.ต.ปิยะเผยสั้นๆ ว่า เบื้องต้นรับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ก่อน จากนั้นจะนำเสนออธิบดีดีเอสไอเพื่อนำไปพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ตามขั้นตอนต่อไป