MGR Online - คอมมานโด ส่งชุดล่า “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” อดีตนาย ตร.ลูกน้องป๋า “ลอ” มืออุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูล “ศรีธนะขัณฑ์” หลังพ้นโทษแค่ปีเดียวกลับมา ก่อคดีอุ้มฆ่า “เสี่ยอ้วน” ตลาดโรงเกลือ ล่าสุด เหิมเกริมหนักยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันสระแก้วดับ
ย้อนรอยอดีต “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” หรือ อดีต พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ สว.สส.สภ.เมืองปราจีนบุรี มืออุ้มฆ่าฆาตกรรมสองแม่ลูกตระกูล “ศรีธนะขัณฑ์” ตกเป็นผู้ต้องหาใน “คดีเพชรซาอุ” เมื่อปี พ.ศ. 2532 ในฐานะหัวหน้าทีมอุ้มฆ่า นางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์ ภรรยาและบุตรของ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ ที่พัวพันกับคดีเพชร ของราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในขณะนั้นมี พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ เป็นหัวขบวน
“พันธ์ศักดิ์” เป็นที่รู้จักในแวดวงผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นหัวหน้าซุ้มมือปืนลำดับต้นๆ ของภาคตะวันออก มีคดีติดตัวมากมาย ทั้งคดีอุ้มฆ่า ส.ท.สมเกียรติ น้อยเล็ก อดีตมือปืนคนดัง คดีอุ้มฆ่ากำนันประเชิญ บุญปราโมทย์ และยังมีชื่อพัวพันคดีอุ้มฆ่า นางตรีนุช บุญทวี ภรรยาของ ส.จ.ปราจีนบุรี ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของแฟนสาว พ.ต.ท.พันศักดิ์ รวมทั้งยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอุ้มฆ่าหัวหน้าแขวงการทางพิเศษ จ.ปราจีนบุรี ที่มาติดพันแฟนสาวของ พ.ต.ท.พันศักดิ์
หลัง “พันศักดิ์” พันโทษจากคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูล “ศรีธนะขัณฑ์” นาน 18 ปี เมื่อปี 2555 แต่พฤติกรรมยังโหดเหี้ยมกว่าเดิม
ยังตั้งตัวเป็นมาเฟียรับงานอุ้มฆ่า “เสี่ยอ้วน” หรือ นายชัยชนะ หมายงาน วัย 67 ปี เจ้าของฉายา “เทพเจ้าสองแผ่นดิน” เนื่องจากเป็นเจ้าของบริษัท ส่งเสริมสองแผ่นดิน จำกัด ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นผู้กว้างขวางในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ปี พ.ศ. 2556 โดย “เสี่ยอ้วน” ถูกอุ้มไปฆ่าและเผาทิ้งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ต่อมา ตร. โดยมี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 (ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) สามารถจับกุม นายพันศักดิ์ ร่วมกับพวกอีก 4 คน อุ้มฆ่า “เสี่ยอ้วน” และเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยศาลจังหวัดสระแก้ว พิพากษาสั่งประหารชีวิต “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” อดีตตำรวจดัง อุ้มฆ่าเผานั่งยาง “เสี่ยอ้วน”
- แต่ “พันศักดิ์” หลบหนีคดีไม่มาฟังคำตัดสินประหารชีวิต
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย ชื่อ “พันธ์ศักดิ์” มาโด่งดังอีกครั้ง เมื่อมีหลักฐานเข้าไปเกี่ยวข้องคดียิงสองสามีภรรยา นักธุรกิจเจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ภายในซอยโรงเลื่อย บนถนนเทศบาล 6 เป็นผลให้ นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ถนนเทศบาล 6 อ.เมืองสระแก้ว และ นางปาริดา วรทัด อายุ 50 ปี ภรรยา บาดเจ็บสาหัส ร้อนถึง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งล่าตัวคนร้ายโดยด่วน
ขณะที่ พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาให้ตนลงมาติดตามเร่งรัดคดี ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก เชื่อว่า จะได้ตัวผู้ก่อเหตุเร็วๆ นี้ ขณะที่ปมการสังหาร ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุกี่คน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
แต่งานนี้คงไม่ต้องรอ ..ผลการสอบสวน อีกแล้ว เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผบก.ป. สั่งชุดคอมมานโดไล่ล่า นายพันศักดิ์ และ นางธนพร สุขโขจัย ภรรยา
โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด โดยชุดแรกให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2.บก.ป. และ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3.บก.ป. ตั้งชุดปฏิบัติการออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยทั้งบริเวณภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนบนและตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 2 และกองกำกับการ 3 ชุดที่สองให้ส่งกำลังไปสนับสนุนการทำงานของตำรวจท้องที่ และชุดที่สาม ให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3.บก.ป. จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนเชิงลึกหา
ซึ่งเป็นสัญญาณว่า...หากเจอตัวมืออุ้มกระกาฬ หนีโทษประหารเมื่อไหร่ จับตายได้ทันที
ย้อนรอยอดีต “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” หรือ อดีต พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ สว.สส.สภ.เมืองปราจีนบุรี มืออุ้มฆ่าฆาตกรรมสองแม่ลูกตระกูล “ศรีธนะขัณฑ์” ตกเป็นผู้ต้องหาใน “คดีเพชรซาอุ” เมื่อปี พ.ศ. 2532 ในฐานะหัวหน้าทีมอุ้มฆ่า นางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์ ภรรยาและบุตรของ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ ที่พัวพันกับคดีเพชร ของราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในขณะนั้นมี พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ เป็นหัวขบวน
“พันธ์ศักดิ์” เป็นที่รู้จักในแวดวงผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นหัวหน้าซุ้มมือปืนลำดับต้นๆ ของภาคตะวันออก มีคดีติดตัวมากมาย ทั้งคดีอุ้มฆ่า ส.ท.สมเกียรติ น้อยเล็ก อดีตมือปืนคนดัง คดีอุ้มฆ่ากำนันประเชิญ บุญปราโมทย์ และยังมีชื่อพัวพันคดีอุ้มฆ่า นางตรีนุช บุญทวี ภรรยาของ ส.จ.ปราจีนบุรี ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของแฟนสาว พ.ต.ท.พันศักดิ์ รวมทั้งยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอุ้มฆ่าหัวหน้าแขวงการทางพิเศษ จ.ปราจีนบุรี ที่มาติดพันแฟนสาวของ พ.ต.ท.พันศักดิ์
หลัง “พันศักดิ์” พันโทษจากคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูล “ศรีธนะขัณฑ์” นาน 18 ปี เมื่อปี 2555 แต่พฤติกรรมยังโหดเหี้ยมกว่าเดิม
ยังตั้งตัวเป็นมาเฟียรับงานอุ้มฆ่า “เสี่ยอ้วน” หรือ นายชัยชนะ หมายงาน วัย 67 ปี เจ้าของฉายา “เทพเจ้าสองแผ่นดิน” เนื่องจากเป็นเจ้าของบริษัท ส่งเสริมสองแผ่นดิน จำกัด ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นผู้กว้างขวางในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ปี พ.ศ. 2556 โดย “เสี่ยอ้วน” ถูกอุ้มไปฆ่าและเผาทิ้งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ต่อมา ตร. โดยมี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 (ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) สามารถจับกุม นายพันศักดิ์ ร่วมกับพวกอีก 4 คน อุ้มฆ่า “เสี่ยอ้วน” และเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยศาลจังหวัดสระแก้ว พิพากษาสั่งประหารชีวิต “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” อดีตตำรวจดัง อุ้มฆ่าเผานั่งยาง “เสี่ยอ้วน”
- แต่ “พันศักดิ์” หลบหนีคดีไม่มาฟังคำตัดสินประหารชีวิต
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย ชื่อ “พันธ์ศักดิ์” มาโด่งดังอีกครั้ง เมื่อมีหลักฐานเข้าไปเกี่ยวข้องคดียิงสองสามีภรรยา นักธุรกิจเจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ภายในซอยโรงเลื่อย บนถนนเทศบาล 6 เป็นผลให้ นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ถนนเทศบาล 6 อ.เมืองสระแก้ว และ นางปาริดา วรทัด อายุ 50 ปี ภรรยา บาดเจ็บสาหัส ร้อนถึง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งล่าตัวคนร้ายโดยด่วน
ขณะที่ พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาให้ตนลงมาติดตามเร่งรัดคดี ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก เชื่อว่า จะได้ตัวผู้ก่อเหตุเร็วๆ นี้ ขณะที่ปมการสังหาร ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุกี่คน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
แต่งานนี้คงไม่ต้องรอ ..ผลการสอบสวน อีกแล้ว เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผบก.ป. สั่งชุดคอมมานโดไล่ล่า นายพันศักดิ์ และ นางธนพร สุขโขจัย ภรรยา
โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด โดยชุดแรกให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2.บก.ป. และ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3.บก.ป. ตั้งชุดปฏิบัติการออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยทั้งบริเวณภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนบนและตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 2 และกองกำกับการ 3 ชุดที่สองให้ส่งกำลังไปสนับสนุนการทำงานของตำรวจท้องที่ และชุดที่สาม ให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3.บก.ป. จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนเชิงลึกหา
ซึ่งเป็นสัญญาณว่า...หากเจอตัวมืออุ้มกระกาฬ หนีโทษประหารเมื่อไหร่ จับตายได้ทันที