xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.จับมือหน่วยงานระหว่างประเทศและในประเทศ บูรณาการปราบยาเสพติดข้ามชาติ 3 คดีใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ป.ป.ส.การบูรณาการหน่วยงานในประเทศ และระหว่างประเทศ จับยาเสพติดข้ามชาติ 3 คดีสำคัญ ตามโครงการ AAITF และ ASITF ได้ของกลางและผู้ต้องหาจำนวนมาก

วันนี้ (27 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายนิยม เติมศรีสุข ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, นายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส., นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับ พล.ร.ท.จักรกฤษณ์ เสขะนันท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือและที่ปรึกษา ศปก.ทร., น.อ.พงศ์วุฒิ เอี่ยมละออ ผู้อำนวยการกอง 12 ศูนย์รักษาความปลอดภัย, น.อ.พินิตย์ คงมี ผู้บังคับการกรมทหารสารวัตรทหารอากาศ สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 และ Ms.Jodie Hurley เจ้าหน้าที่จาก Australian Federal Police ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ 3 คดี พร้อมของกลางไอซ์ 355 กิโลกรัม

นายศิรินทร์ยากล่าวว่า ป.ป.ส.บูรณาการปราบปรามทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติในครั้งนี้ ได้รับข่าวสารมาจากการประสานงานตามโครงการความร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติของอาเซียน (ASEAN Airport Interdiction Task Force : AAITF) และโครงการความร่วมมือสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลในอาเซียน (ASEAN Seaport Interdiction Task Force : ASITF) สามารถจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ จำนวน 3 คดี

นายศิรินทร์ยากล่าวอีกว่า คดีแรกสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานข้อมูลข่าวสารจากโครงการ AAITF ว่า เครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวัน ได้ติดต่อซื้อยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ โดยนัดหมายส่งยาเสพติดกันในพื้นที่ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนส่งออกไปยังไต้หวัน โดยทางเรือ จึงได้บูรณาการร่วมกับ บช.ภ.5 และกองทัพภาคที่ 3 เฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยการลำเลียงอาจมีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง

“ต่อมาทราบว่า นายเจียง ยี่ปิน (Chiang Yi-Pin) ชาวไต้หวัน เดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ย.61 จึงได้แจ้งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด กระทั่งวานนี้ (26 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จับกุม นายเจียง ยี่ปิน พร้อมของกลางไอซ์ 355 กิโลกรัม ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นครั้งแรก และจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่ายังไม่ทราบว่านำยาเสพติดส่งไปที่ไหนเพราะต้องรอคำสั่งจากเครือข่ายก่อน พร้อมเตรียมขยายผลเพิ่มเติม”

ส่วนคดีที่ 2 ป.ป.ส. มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ตามโครงการ AAITF และได้มีการประสานข้อมูลร่วมกันตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติด ต่อมาพบผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศบราซิล จำนวน 2 ราย เดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อไปยัง สปป.ลาว โดยแยกไปยังเมืองหลวงพระบาง และกรุงเวียงจันทน์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด สปป.ลาว (LCDC) เข้าจับกุมผู้ต้องหาชาวโปรตุเกสได้ที่ท่าอากาศยานหลวงพระบาง พร้อมของกลางโคเคน 2 กิโลกรัม และจับกุมผู้ต้องหาชาวโบลิเวียได้ที่ท่าอากาศยานวัดไต กรุงเวียงจันทน์ พร้อมของกลางโคเคน 5 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับคดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ชุด AAITF ประเทศไทย ได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของ น.ส.ศศิวิมล วงศ์มั่น และ น.ส.ณิษาภัทษร โคตรดี ซึ่งลักลอบลำเลียงยาเสพติดให้กับกลุ่มนักค้ายาเสพติดชาวแอฟริกันตะวันตกในพื้นที่ กรุงเทพฯ พร้อมกับได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังบุคคลทั้ง 2 ราย เดินทางเข้าประเทศไทย จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ย.61 เจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบ น.ส.ศศิวิมล และ น.ส.ณิษาภัทษร เดินทางเข้าฝั่งประเทศกัมพูชา มาที่ด่านฯ จึงได้ทำการตรวจค้นพบของกลางโคเคน 3.5 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม การจับกุมทั้ง 3 คดี เป็นการบูรณาการของหน่วยงานในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดด้วยการบูรณาการด้านข่าวสารและการปฏิบัติการร่วมกัน จนนำไปสู่การสกัดกั้นและจับกุมยาเสพติดจากแหล่งต่างๆ ที่จะลำเลียงเข้ามาในประเทศ และใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3






กำลังโหลดความคิดเห็น