ข่าวลึกปมลับ : คลายล็อกซ่อนปมลึก ? “กับดัก” เลื่อนเลือกตั้ง

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561 ตอน คลายล็อกซ่อนปมลึก ? “กับดัก” เลื่อนเลือกตั้ง



หลังร่าง กฎหมายสองฉบับสุดท้าย คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ประกาศใช้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามด้วยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2561 เพื่อคลายล็อกตามกันออกมาติดๆ

ทำให้ความหวังที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้าดูเป็นไปได้มากกว่าครั้งก่อนๆ ตลาดหุ้นและตลาดการเมืองดีดตัวขานรับทันที

การคลายล็อก เปิดทางให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้ง และให้พรรคการเมืองประชุมใหญ่ เพื่อรับสมาชิก สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เหล่านี้เป็นการให้พรรคการเมืองเตรียมตัวลงสนาม

เมื่อกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้แล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคม หมายถึงการเลือกตั้งจะเดินไปตามไฟต์บังคับ ภายใน 150 วัน ที่จะเริ่มนับทันทีหลังจากวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ

ซึ่งจะสอดคล้องกับปฏิทินที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันเบื้องต้นว่า วันเลือกตั้ง คือ 24 กุมภาพันธ์ 2562

เป็นธรรมดาที่นักการเมืองจะมีชีวิตชีวาขึ้น เพราะสัญญาณครั้งนี้ดูจะใกล้เคียงความจริงที่สุด ที่จะได้ประชาธิปไตยคืนมา แต่จะว่าไปในทางปฏิบัติยังไว้ใจอะไรไม่ได้ ในเมื่อคำสั่ง คสช.ทั้งฉบับที่ 53/2560 และฉบับล่าสุดที่ 13/2561 มี “หลุมพราง” เป็น”กับดัก”รออยู่

แน่นอน คสช.คลายล็อกให้หลายขยัก มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก เหลือเพียงการหาเสียงที่ยังทำไม่ได้ แต่อย่าลืมว่า จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ มันยังอยู่ในมือของ “บิ๊กตู่” โดยเฉพาะข้อ 8 ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ที่ยัง “คงอยู่” ไม่ได้มีการยกเลิกหรือแก้ไขในคราวนี้

ข้อ 8 ในคำสั่งนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงมีผลเป็นความ “ไม่แน่นอน” ใน “ความแน่นอน” ก็เพราะข้อ 8 ระบุชัดว่า พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อใด ให้คณะรัฐมนตรีแจ้ง คสช.เพื่อแก้ไขคำสั่ง ประกาศ คสช.ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง ซึ่งมีเนื้อหาคำต่อคำว่า

“เมื่อมีการประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ..ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง

และร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยให้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และจะเชิญผู้แทนพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองต่างๆ เข้าหารือด้วยก็ได้”

ดูๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่นี่คือ “กับระเบิด” ที่อาจทำให้การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และอาจเลื่อนออกไปอีก จนสุดกรอบ 150 วัน หรือเดดไลน์สุดท้ายในเดือนพฤษภาคม 2562

เพราะถ้าการหารือระหว่าง กกต. กรธ. ประธาน สนช. พรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง เห็นว่า ยังไม่พร้อม หรือมีอุปสรรค ที่จะเลือกตั้งในเดือนแห่งความรัก มันก็อาจเป็นเหตุให้เลื่อนออกไปอีกได้

จะสังเกตเห็นว่า ข้อ 8 ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 เปิดให้กลุ่มการเมืองต่างๆ สามารถเข้ามาร่วมหารือได้ ขณะที่ในปัจจุบัน จากข้อมูล กกต. ปัจจุบัน มีพรรคการเมือง 74 พรรค และมีกลุ่มที่ยื่นขอจดทะเบียน 15 พรรค จองไว้แต่ยังไม่จดทะเบียน 118 กลุ่ม

ซึ่งถ้าการเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์62พรรคเก่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่บรรดาพรรคใหม่ และกลุ่มการเมืองที่ไปขอจดทะเบียน หรือจองชื่อเอาไว้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าพรรคเก่าจากข้อมูล กกต.ขณะนี้ จะมีปัญหา และทำไม่ทัน

ถ้าต้องหารือ หรือต้องโหวตวัดกัน กลุ่มที่ไม่มีโอกาสจะบอกว่า ไม่พร้อมจะมีสูงกว่า หนำซ้ำ ในวงดังกล่าวยังมีกลุ่มเครือข่ายมือรับงานของรัฐบาลนั่งอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น กรรมาการร่างรัฐธรรมนูญ หรือประธาน สนช.

ขณะที่อีกปีกหนึ่ง คือพรรคใหม่ หรือกลุ่มการเมืองที่ไปขอจดจัดตั้งพรรค ล้วนแต่เป็นกลุ่มที่ถูกมองว่า เป็นนอมินี และแนวร่วมท็อปบูตแทบทั้งสิ้น

ดังนั้น คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับล่าสุด จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็นน้ำน้ำผสมยาพิษที่เอามาให้พรรคการเมืองมีความหวัง ขณะเดียวกัน ก็ลดแรงกดดันจากภายนอกประเทศ ซ้ำยังช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น และทำให้รัฐบาลทำงานง่ายขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ สะท้อนผ่านกระดานหุ้นที่หุ้นขึ้นยกแผง

นอกจากนี้ อย่าลืมว่า ขณะนี้พรรคการเมืองยังคงโวยวายไม่เลิกในประเด็นระยะเวลาหาเสียงสั้นเกินไปว่า คสช. ให้เวลาหาเสียงน้อยเกินไป ตรงนี้อาจเข้าทาง คสช.จึงขยับขยายให้สมใจอยาก มันก็เข้าทางท็อปบูตอีก

ขณะเดียวกัน ในช่วงหลังจากนี้ยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หากมีอะไรบางอย่างที่ทำให้การหาเสียงดูจะไม่เหมาะสมในช่วงเวลานั้นๆ ก็อาจทำให้ต้องมีการชดเชย บวกเพิ่มเวลาหาเสียงให้กับพรรคการเมือง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ต้องเลื่อนไปข้างหน้าอีกได้

ทุกอย่างอยู่ในกำมือ คสช.ทั้งหมด ที่สามารถอ้างเป็นเหตุในการขยับ โดยใช้ความชอบธรรมจากเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้น หากอยากจะยื้อการเลือกตั้งออกไป ซึ่งมันเป็นเหลี่ยมคูทางกฎหมายที่บรรดาขงเบ้งของท็อปบูตวางหมากกลเอาไว้

การคลายล็อกดูเหมือนจะใจดี แต่อาจจะเป็นหมากเกมหนึ่งที่ทำให้ทุกอย่างดูเนียนและแยบยล โดยไม่ให้ คสช.ตกเป็นผู้ต้องหาอยากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปแต่เพียงผู้เดียว

วันนี้หลายงานของ คสช.ยังไม่เสร็จ หรือบางอย่างก็ยังไม่นิ่งไม่อาจวางใจได้ หากรีบด่วนคืนอำนาจไปก็ยังมีโอกาสพลาดได้ ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ การเลือกตั้งก็เช่นกันจึงยืดได้หดได้

เลือกตั้งวันที่24 กุมภาพันธ์แค่มีความเป็นไปได้ แต่ยังสามารถยืดได้จนสุดสายป่านโดยมีข้ออ้างหลายๆเรื่องรองรับ ใครที่คิดว่าเลือกตั้งจะมาเร็ว เผื่อใจไว้บ้างก็ดี