xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “สุวัจน์”เสร็จอีกราย ซบ “พลังประชารัฐ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 12 กันยายน 2561 ตอน “สุวัจน์”เสร็จอีกราย ซบ “พลังประชารัฐ”



ปัญหาอาการห้องเครื่องยนต์พรรค พลังประชารัฐ สะดุด ไม่สามารถขยับเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย คือแม้แต่จะประชุมเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการพรรค เพื่อเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ ที่จะประชุมกันวันเสาร์ที่15กันยายนนี้ ต้องเลื่อนออกไปอย่างกระทันหัน

ทำให้พรรคพลังประชารัฐยังตกอยู่ในความอึมครึมต่อไป โดยเฉพาะปัญหาความไม่ชัดเจนของคนที่จะมานำทัพพรรค

ปัญหาที่ทำให้การขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐเดินหน้าไม่ได้ อาจจะแปลกไม่เหมือนพรรคอื่น คือพรรคนี้คนที่เขาจะให้เป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคไม่อยากรับตำแหน่งเสียยังงั้น ส่วนพรรคอื่นแย่งกันเป็นหัวหน้าพรรคเพราะมีทั้งอำนาจ และมือก็ได้ถือเงิน

แต่ที่พลังประชารัฐไม่ยอมมาเป็น ซึ่งในการประชุมพรรคที่เลื่อนไป สายการเมืองโดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร มีมติให้ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนอุตตม สาวนายน เป็นเลขาฯพรรค แต่สองคนคงจะยังไม่อยากเปิดตัวในช่วงนี้ เลยทำให้การประชุมต้องเลื่อนออกไป

เหตุผลที่สนธิรัตน์ และ อุตตม ไม่อยากรับตำแหน่งในพรรคช่วงนี้ กระแสข่าวว่าทั้งสองไม่อยากลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อไปรับตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ แต่มีเสียงเรียกร้องให้ลาออกถ้าจะลุยกับพรรค จึงจะเหมาะสมและพรรคจะได้เดินหน้าเต็มที่ได้

เรื่องนี้ภายในพรรคเขาว่า แม้ตามกฎหมายจะไม่ได้ห้ามที่รัฐมนตรี จะมีตำแหน่งในพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ-กฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่จะออกมา มีความเข้มงวดมากในการป้องกันการใช้อำนาจทางการเมือง เพื่อช่วยเหลือพรรคการเมือง และผู้สมัครส.ส.

ดังนั้น  หากผิดพลาดไปในช่วงหาเสียง แม้จะโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็อาจสุ่มเสี่ยงถูกร้องเรียนกับกกต. ได้ จะโดนเอาผิดทั้งยุบพรรค-คดีอาญาได้  ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรลาออกจากรัฐมนตรี เพื่อกันไว้ก่อนดีกว่ามาแก้ภายหลัง หรือหากไม่ลาออกจริงๆ ก็ต้องระมัดระวังมาก

จึงทำให้ที่ผ่านมา ทั้งสนธิรัตน์และนายอุตตม ตัดสินใจไม่ได้ระหว่างไปเป็นแม่ทัพพรรคกับ เป็นรัฐมนตรีต่อไป แต่ดูเหมือนทางเลือกจะอยู่กับเก้าอี้รัฐมนตรีต่อไปมากกว่า

ทั้งสองเลยเด้งเชือก วนๆไปเรื่อยๆ ข้างฝ่ายกลุ่มคนก่อตั้งไม่ค่อยชอบการแทงกั๊ก ของสองรัฐมนตรีเท่าไหร่ อยากให้กระโดดมาไวๆ เพราะจะได้มาช่วยกับกลุ่มสามมิตรหาเสียง เพราะถ้าคนทำนโยบายเองลงมาชี้แจงกับชาวบ้านโดยตรงก็จะได้ผลดีกว่า ได้รับความเชื่อถือมากกว่า

เมื่อรัฐมนตรียังใจเย็น กลุ่มสามมิตรและกลุ่มอื่นที่เป็นคนขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐก็หัวร้อน เพราะกลัวจะไม่ทันการณ์ เนื่องจากพวกนี้อ่านว่า จะเอาชนะทักษิณได้ต้องใช้ทั้งนโยบายและดึงตัวส. ส. ในพื้นที่มาเข้าพรรคควบกันไป

ตอนนี้ปัญหาชิงตัวส. ส. กลุ่มสามมิตรกว้านตัวสส. เกรดเอในภาคอีสาน เหนือ และกลางมาได้ไม่น้อย แถมดูแล5ชุดต่อเดือนไปหลายเดือนแล้ว ซึ่งทักษิณ ชินวัตรก็ใช้วิธีเดียวกันห้ามเลือดไหล หยุดสส. หนีทัพ ก็ยอมจ่ายให้5ชุดเท่ากัน ดังนั้นราคานี้ถือว่าสามมิตรยังไม่เพลี่ยงพล้ำ

แต่ตอนนี้สามมิตรยังข่มเพื่อไทยกับทักษิณไม่ได้ ก็เพราะไม่มีใครในรัฐบาลออกมานำทัพพลังประชารัฐจริงๆเสียที ที่จะมาให้ความมั่นใจกับประชาชน ซึ่งถ้าเปิดตัวขุนพลได้ ความได้เปรียบทักษิณมาทันที

ด้วยที่พลังประชารัฐจะสามารถพูดได้เต็มๆว่า นโยบายพรรคทั้งพลังประชารัฐและเพื่อไทยไม่ต่างกัน เป็นประชานิยมเหมือนกัน แต่ต่างกันที่เพื่อไทยไม่มีโอกาสทำนโยบายให้เป็นจริงได้ เพราะทักษิณมาไม่ได้ ส่วนขุนพลเพื่อไทยที่ทำนโยบายก็ไม่อยู่แล้ว เลือกพลังประชารัฐดีกว่า

แต่ปัญหาอยู่ที่ สองรัฐมนตรีที่ถูกวางตัวเป็นหัวหน้าและเลขาฯพรรคไม่ลุกมา แผนการเจาะยางทักษิณก็เลยสะดุด ทั้งที่การทำงานในพื้นที่ นอกจากจะเป็นกลุ่มสามมิตร ก็มีกลุ่มทอปบู้ตเดินหน้าไปไกลด้วยเช่นกัน

เช่น ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ก็มี ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า อดีตผู้กองคนดัง เคยลงเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ตอนเลือกตั้งปี  2557 แต่สุดท้ายกลายเป็นเลือกตั้งโมฆะ

มารอบนี้ ผู้กองมนัส ย้ายค่ายจากเพื่อไทย มาอยู่กับขั้วสีเขียวด้วยกัน ท่ามกลางข่าวว่า เพราะช่วงหลังไปสนิทกับ บิ๊กแดง พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ผบ.ทบ.คนใหม่ ที่เป็นประธานบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย

เลยทำให้ ผู้กองมนัสถอดเสื้อพรรคเพื่อไทย มาอยู่กับฝ่ายคสช.  เพื่อช่วยทำพรรคพลังประชารัฐ ทำเอาหลายคนในพลังประชารัฐสุดแฮปปี้ เพราะรู้กันว่า ผู้กองมนัส เป็นคนเงินถึง

ข่าวความเคลื่อนไหวสายนี้ ระบุว่า มีการทำโผรายชื่อผู้สมัครส.ส.เขตภาคเหนือ ไว้หลายจังหวัดเพื่อชนกับเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จากเพื่อไทย และยังมีโผรายชื่อผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ ที่เป็นคนในสังกัด ผู้กองมนัส อยู่ในมืออีกด้วยหลายคน  

 ขณะที่ภาคใต้ ก็ไปได้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล คนสงขลา เพื่อนร่วมรุ่น ตท. 12 กับบิ๊กตู่ ที่เป็นอดีตสปท. ไปลงพื้นที่ทำฐานการเมือง หาตัวผู้สมัครส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐไว้หลายจังหวัดแล้ว

ไม่เว้นแม้แต่ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีข่าวว่าบางเขตในยะลา นราธิวาส มีการทาบทามบางคนเอาไว้ ชนิดที่ กลุ่มวาดะห์ในพรรคประชาชาติ ได้ยินชื่อ ยังร้องลั่นเพราะเคยไปดึงตัวแล้วแต่ไม่สำเร็จ

ที่เซอร์ไพรส์ล่าสุด ก็คือ มีการตกลงกันเงียบๆระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เจ้าของพรรคชาติพัฒนา เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนคสช. แล้ว โดยสุวัจน์การันตีจะทำส. ส. ให้ท้อปบู้ตแน่นอน สามคน

เส้นทางของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาบรรจบที่ พรรคพลังประชารัฐ ช่วงนี้ยังอึมครึมกันต่อไป คงอีกสักระยะ จนกว่าทุกอย่างจะลงตัวมากกว่านี้ คงจะได้เผยโฉมชัดๆกันเสียที


กำลังโหลดความคิดเห็น