xs
xsm
sm
md
lg

“ราชทัณฑ์” พักการลงโทษชั้นดี 674 ราย และโอนตัวนักโทษต่างชาติตามสนธิสัญญารัฐต่อรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - กรมราชทัณฑ์จัดประชุมวินิจฉัยการพักการลงโทษนักโทษความประพฤติดีจากเรือนจำ 64 แห่ง รวม 674 ราย และโอนตัวนักโทษเด็ดขาดชาวต่างชาติ ตามสนธิสัญญาโอนตัวรัฐต่อรัฐ 50 ราย

วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ครั้งที่ 2/2561 ประจำเดือน ส.ค. 2561 โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติพิจารณาพักการลงโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาด ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบของทางราชการจากเรือนจำ 64 แห่ง ในคดีความผิดทั่วไป และคดียาเสพติด จำนวน 248 ราย และได้พิจารณาพักการลงโทษผู้ที่ผ่านหลักสูตรเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย (เรือนจำโครงสร้างเบา) ประจำปีงบประมาณ 2561 รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 อีก 426 ราย รวมเป็นผู้ได้รับการพักการลงโทษทั้งสิ้น 674 ราย โดยผู้ที่ได้รับการพิจารณาพักการลงโทษเหล่านี้ ถือเป็นผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัย ผ่านการพัฒนาพฤตินิสัย เหลือโทษอีกไม่นาน และไม่เป็นภัยต่อสังคม

พ.ต.อ.ณรัชต์เผยอีกว่า ขณะเดียวกัน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรมยังได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโอนตัวนักโทษเด็ดขาดชาวต่างประเทศ จำนวน 50 ราย ประกอบไปด้วยสัญชาติ อิหร่าน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์ และสเปน ตามสนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยนักโทษที่จะโอนตัวต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด คดีถึงที่สุด มีคุณสมบัติไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาโอนตัวนักโทษ

“ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการโอนตัวนักโทษชาวต่างชาติไปแล้ว 1,083 ราย และนักโทษสัญชาติไทยที่ได้รับการโอนตัวกลับมารับโทษต่อในประเทศไทยแล้ว 17 ราย การโอนตัวดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้นักโทษได้กลับไปรับโทษที่เหลือยังประเทศของตนได้ใกล้ชิดครอบครัว ญาติพี่น้อง และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคุ้นเคย เพื่อประโยชน์ต่อการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยให้เป็นคนดีกลับสู่สังคมต่อไป” อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น